Author: pure
-
ประโยชน์นานาสารพัดของเปลือกกล้วย
ประโยชน์นานาสารพัดของเปลือกกล้วย ต่อไปนี้คุณผู้อ่านทานกล้วยเสร็จแล้วอย่าเพิ่งโยนเปลือกทิ้งไปนะคะ เพราะวันนี้ทางเวปไซต์ขอนำเสนอประโยชน์ของเปลือกกล้วยมาฝากคุณผู้อ่านให้ได้นำไปทดลองใช้กันดูค่ะ – สำหรับผู้ที่มีผิวแห้งแตกเช่น ข้อศอกด้าน หัวเข่าด้าน หรือส้นเท้าด้าน นำเอาเปลือกกล้วยด้านในมาถูผิวหนังบริเวณที่ด้านนั้นไปมา ๆ ก็จะคืนความชุ่มชื้นนุ่มนวล ปรับสภาพผิวที่แห้งกระด้างให้นิ่มลงได้ – เปลือกกล้วยสามารถรักษาอาการบวม แดง และคันจากแมลงสัตว์กัดต่อยได้ด้วย เพียงกลับด้านในของเปลือกกล้วยมาถูไปมาบริเวณที่โดนกัด – สำหรับคนหนังศีรษะแห้งเป็นขุย หรือผมแห้งกระด้าง ลองนำเปลือกกล้วยมาขูดด้านในแล้วผสมน้ำผึ้งให้เป็นครีมข้น ๆ หมักเส้นผมไว้ครึ่งชั่วโมงแล้วจึงสระผมออกตามปกติ หนังศีรษะจะชุ่มชื้น เส้นผมจะนุ่มสลวยขึ้นด้วยค่ะ – สำหรับคนขี้เมื่อย เอาเปลือกกล้วยไปอังไฟให้อุ่นร้อน แล้วนำมาประคบบริเวณที่ปวดเมื่อย บรรเทาอาการเมื่อยได้ชะงัดนัก – นอกจากใช้กับร่างกายแล้ว หากบริเวณหน้าเตาแก๊สที่ทำอาหารของคุณมีแต่คราบเขม่า ให้ลองนำเปลือกกล้วยมาถูบริเวณคราบเม่าออก แล้วนำผ้าแห้งเช็ดอีกรอบหนึ่ง เตาแก๊สคุณก็จะใหม่สะอาดอยู่เสมอค่ะ
-
อาหารกินแล้วบำรุงสมอง
อาหารกินแล้วบำรุงสมอง ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหน อาการสมองเสื่อมก็สามารถเข้ามาเยี่ยมเยือนได้ทุกเมื่อ ทีนี้หากเรายังไม่อยู่ในวัยที่สมองจะเสื่อมสภาพ เราจะดูแลสมองของเราอย่างไรดี วันนี้เราจะมาลองเฟ้นหาเมนูที่มีสรรพคุณในการบำรุงสมองและความจำกันนะคะ หลังจากนี้ไปจะได้ไม่ขี้หลงขี้ลืมกันอีกค่ะ – ในกลุ่มพืชผัก อาหารที่ช่วยบำรุงสมองได้แก่ พริก ขิง หอมหัวใหญ่ ช่วยเพิ่มเซลล์สมองและมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการหลั่งสารอะซีทิลโคลีน จึงช่วยให้ความจำดีขึ้น, ใบบัวบก ทำให้มีสมาธิและความจำดีขึ้น แล้วยังกระตุ้นการเรียนรู้ของสมองด้วย อีกทั้งมะเขือเทศยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันเซลล์สมองจากการทำลายของมลพิษต่าง ๆ รวมไปถึงบร็อกโคลีที่มีวิตามินเค ช่วยเพิ่มศักยภาพในการเรียนรู้ เพิ่มความสามารถในการจำได้ด้วย และผักใบเขียวหลากชนิดก็ช่วยป้องกันสมองเสื่อมได้เช่นกัน – ในกลุ่มของเมล็ดพืช และธัญพืช ทั้งถั่ว ข้าวซ้อมมือ เมล็ดฟักทอง ซีเรียล รำข้าว มีกรดโฟลิก วิตามินบี 6 และวิตามินบี 12 ช่วยในเรื่องของความจำบำรุงสมองได้อย่างยอดเยี่ยม ในเมล็ดฟักทองยังมีธาตุสังกะสีเป็นจำนวนมาก มีส่วนช่วยในเรื่องของการเพิ่มความจำได้เช่นกัน – ในกลุ่มของไข่ เนื้อสัตว์และปลาทะเล มีโปรตีนที่ช่วยบำรุงสมอง ปลาทะเลก็มีกรดไขมันโอเมก้าสาม ที่ช่วยบำรุงระบบประสาท ลดการเกิดพลัคในสมองและป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้ด้วย – แล้วยังมีผลการวิจัยใหม่ ๆ ที่ระบุด้ววยว่า ในช็อกโกแลต ชา องุ่น…
-
ผักผลไม้ 5 ชนิดทานแล้วฟันขาวสะอาด
ผักผลไม้ 5 ชนิดทานแล้วฟันขาวสะอาด การทำให้ฟันขาวสดใสนั้น ไม่จำเป็นต้องไปเข้าคอร์สขัดฟันหรือฟอกฟันใหม่ก็ได้นะคะ หากฟันของคุณยังไม่เหลืองมากเท่าไรนัก การทานอาหารที่มีส่วนช่วยให้ฟันขาวสะอาดก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ฟันของคุณขาวสะอาดได้อย่างง่ายดายและมีราคาไม่แพงอีกด้วย หนำซ้ำอาหารเหล่านี้ยังช่วยให้สุขภาพร่างกายโดยรวมแข็งแรงขึ้นไปพร้อม ๆ กัน มาลองดูว่าผักผลไม้ทั้งห้าชนิดนี้คืออะไรบ้างนะคะ 1. แอปเปิ้ล เพราะในแอปเปิ้ลมีกรดมาลิกที่ช่วยสลายคราบที่สะสมบนฟันได้อย่างเป็นธรรมชาตะ ช่วยทำความสะอาดฟันได้ เพิ่มน้ำลายแล้วยังป้องกันการสะสมของคราบแบคทีเรียเหนียว ๆ ที่เกาะอยู่ระหว่างคราบและผิวฟันออกไปได้อย่างง่ายดายด้วยค่ะ 2. ถั่ว เพราะในถั่วนั้นมีแคลเซียมที่ช่วยให้ฟันแข็งแรง มีฤทธิ์กัดกร่อนเล็กน้อยแต่ไม่ส่งผลต่อผิวฟัน จึงสามารถขจัดคราบต่าง ๆ บนผิวฟันได้ดี 3. คึ่นช่าย เพราะในขึ้นฉ่ายมีเส้นใยที่ทำงานเหมือนแปรงสีฟันจึงช่วยขัดคราบออกไปจากผิวฟันเมื่อคุณเคี้ยวสด ๆ ทั้งยังเป็นอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำอีกด้วย ทานมากเท่าไรก็ไม่ต้องกลัวอ้วนค่ะ 4. สับปะรด การที่สับปะรดสามารถขัดคราบบนผิวฟันออกไปได้นั้น เพราะมีเอนไซม์บรอมีเลน นั่นเอง 5. แครอท ช่วยเติมเต็มวิตามินตามที่ร่างกายต้องการ ช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำลาย จึงทำให้ฟันมีสุขภาพดี แต่อาหารที่ควรเลี่ยงนั้นคืออาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรด หรือมีวิตามินซีสูงนั้นเอง เพราะจะเป็นการทำลายเคลือบฟันก่อให้เกิดอาการเสียวฟันในอนาคตได้
-
สาว ๆ ทั้งหลายระวังเล็บติดเชื้อรา!
สาว ๆ ทั้งหลายระวังเล็บติดเชื้อรา! เพราะประเทศไทยเราเป็นเมืองที่มีสภาพอากาศร้อนชื้น เชื้อราสายพันธุ์ต่าง ๆ จึงเจริญเติบโตได้ดีและรวดเร็วด้วยสภาพอากาศที่พอเหมาะ แม้แต่บนเล็บของเราก็ด้วย! น่าขนลุกน่าดูเลยทีเดียวค่ะ แต่ก็ใช่ว่าจะติดเชื้อกันได้ง่ย ๆ เสมอได้ หากเราดูแลมือและเล็บของเราอย่างถูกวิธี วันนี้เราลองมาดูวิธีการป้องกันไม่ให้เล็บเราติดเชื้อรากันนะคะ 1. สำรวจเล็บมือเล็บและเล็บเท้าไว้เสมอ ๆ ยิ่งโดยเฉพาะสาว ๆ ที่ชอบทำเล็บสีต่าง ๆ หรือผู้ที่ชื่นชอบการติดเล็บปลอม การติดเล็บอะคริลิกหรือการตกแต่งเล็บแบบต่าง ๆ ควรเลือกร้านทำเล็บที่สะอาด ได้มาตรฐาน ช่างทำเล็บมีความชำนาญและเครื่องมือทุกอย่างควรฆ่าเชื้ออย่างสะอาด หากเห็นไม่น่าไว้ใจ อย่างทำเลยดีกว่า 2. ดูแลเล็บของตัวเองให้สะอาด อย่ากัดเล็บ แล้วทำความสะอาดด้วยแปรงขัดเล็บทุกวัน ล้างมือเท้าให้สะอาดแล้วเช็ดให้แห้งสนิท รวมทั้งสามารถทาครีมบำรุงผิวด้วยก็ยังได้ 3. หากเล็บต้องสัมผัสน้ำทุกวัน ให้สวมถุงมือป้องกัน แล้วอย่าลืมว่าให้ถอดลุงมือเพื่อระบายอากาศบ้าง 4. การเข้าห้องน้ำให้สวมรองเท้าฟองน้ำเดินจะดีกว่า ป้องกันมิให้เล็บเท้าติดเชื้อไวรัส เชื้อหูด หรือติดเชื้อรา เพราะถ้าเป็นขึ้นมาแล้ว เล็บอาจหลุดร่อนออก และกว่าเล็บจะงอกขึ้นใหม่ อาจใช้เวลาถึงหนึ่งปีเลยทีเดียว 5. และหากสังเกตเห็นว่าเล็บเริ่มมีความผิดปกติหรือติดเชื้อราแล้ว อย่าทาเล็บหรือตกแต่งเล็บอีก ให้ไปพบแพทย์ผิวหนังทันที ยิ่งปล่อยไว้นานก็จะยิ่งรักษายากและเสียเวลามากกว่าเดิมอาจกินเวลานับปีเลยก็ได้ค่ะ
-
เคล็ดลับหยุดเลือดกำเดาไหลในฤดูร้อน
เคล็ดลับหยุดเลือดกำเดาไหลในฤดูร้อน อาการเลือดออกจากจมูก หรือ เลือดกำเดาไหลนั้นเกิดจากหลายสาเหตุ แต่ก็มักมิใช่เรื่องร้ายแรง และมักหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา ซึ่งการรักษาที่เราใช้กันมานานแล้วก็คือการหยุดเลือดด้วยการประคบด้วยผ้าห่อน้ำแข็ง ร่วมกันการกดบีบจมูกเพื่อห้ามเลือด นอกจากนี้แล้วการแพทย์แผนไทยยังแนะนำสมุนไพรสำหรับห้ามเลือดกำเดาไหลไว้หลายวิธีอีกด้วยค่ะ 1. ใช้ใบพลูที่ทานกับเมี่ยง หรือเคี้ยวกับหมากนั่นล่ะค่ะ มาหนึ่งใบ ม้วนให้กลมเหมือนบุหรี่แล้วขยี้ให้ปลายด้านหนึ่งพอช้ำ นำปลายข้างนั้นสอดเข้าไปในรูจมูกข้างที่เลือดไหล ทิ้งไว้หนึ่งชั่วโมง เลือดจะหยุดไหลได้ เพราะในใบพลูมีคุณสมบัติในการรักษาแผลได้ดี 2. ใช้น้ำมะนาว ½ ลูก+เกลือ ½ ช้อนชา+น้ำตาลไม่ขัดขาว ½ ช้อนโต๊ะ นำมาชงกับน้ำร้อนดื่มก่อนอาหาร จะช่วยลดอาการเลือดออกตามไรฟัน และเลือดกำเดาไหลได้ด้วย 3. นำรากต้นข้าวที่ถอนมาทั้งรากทั้งโคนแล้ว 1 ต้น ล้างให้สะอาดแล้วนำมาต้มกับน้ำหนึ่งลิตรแล้วกรองเอาแต่น้ำดื่ม ครั้งละแก้ว ก่อนอาหารเช้าเย็น 4. นำรากต้นฝรั่งหนึ่งกำมือ ล้างสะอาดแล้วต้มกับน้ำหนึ่งลิตร กรองเอาแต่น้ำ แล้วดื่มครั้งละ 1 แก้วก่อนอาหารเช้าและเย็น 5. ใช้รากหัวใช้เท้า 15 กรัม ล้างให้สะอาดแล้วคั้นเอาแต่น้ำ แล้วนำน้ำที่ได้หยดเข้าทางจมูกข้างที่เลือดกำเดาไหล 1-2 หยด จะช่วยห้ามเลือดได้ 6. ลองใช้รากไพล 7…
-
เข้าใจเสียใหม่.. ผมหงอกถอนแล้วไม่หงอกเพิ่ม
เข้าใจเสียใหม่.. ผมหงอกถอนแล้วไม่หงอกเพิ่ม มีความเชื่อกันมานานแล้วว่าถ้ามีผมหงอกงอกขึ้นมาแล้วเราไปถอนเข้า จะทำให้ผมหงอกยิ่งมากขึ้นกว่าเดิม จากที่มีหงอกไม่กี่เส้นนั้น อาจจะหงอกทั่วทั้งหัวเลยก็ได้ ..ขอบอกว่าสิ่งที่เคยเชื่อกันมานั้น ไม่เป็นความจริงเลย เพราะรากผมหนึ่งรากนั้น จะสร้างเส้นผมได้เพียงหนึ่งเส้น ไม่ว่าคุณจะถอนยังไง ผมขึ้นใหม่ก็ไม่มีทางเกินหนึ่งเส้นอยู่ดี ดังนั้นต่อให้คุณถอนผมหงอกขนาดไหน ผมก็ไม่มีหงอกมากไปมากกว่าเดิม แต่การที่คุณเห็นผมหงอกเพิ่มขึ้นบนศีรษะนั้น เกิดจากปัจจัยอื่นมากกว่า ดังนั้นก่อนที่ผมจะหงอกไปทั้งหัว เราก็ควรป้องกันที่ต้นเหตุก่อน หากยังอยู่ในวันที่ผมควรจะดกดำ อาจต้องสำรวจการบำรุงสุขภาพของตัวคุณเอง ว่าทานอาหารที่ช่วยให้เส้นผมแข็งแรงหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น งาดำ หรือสาหร่ายที่ช่วยให้เส้นผมดกดำ เงางาม รวมไปถึงการพักผ่อนให้เพียงพอ และการพยายามลดความเครียดลงด้วย เพราะความเครียดเป็นสาเหตุสำคัญของผมหงอกเลยทีเดียว แต่หากอยู่ในวัยกลางคนขึ้นไปแล้ว การปกปิดผมหงอกนั้นอาจใช้การย้อมผมเข้ามาช่วยก็ได้เหมือนกันค่ะ
-
ล้างมืออย่างไร ปลอดภัย ปลอดเชื้อที่สุด
ล้างมืออย่างไร ปลอดภัย ปลอดเชื้อที่สุด เพื่อในปัจจุบันมีเชื้อโรคเป็นจำนวนมากที่กระจายปะปนอยู่ทั่วไปแทบทุกสถานที่ และทุก ๆ ที่ที่เราเอื้อมมือสัมผัสได้ การล้างมือจึงเป็นสุขนิสัยที่ควรปฏิบัติไว้เสมอ จะได้ช่วยป้องกันการติดเชื้อผ่านทางมือ ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัด ติดเชื้อแผลเป็น หรือโรคท้องเสีย ฯลฯ การล้างมือช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเหล่านี้ได้มาก และเป็นวิธีการป้องกันเชื้อโรคที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง แล้วการล้างมืออย่างไรจึงจะปลอดภัยและปลอดเชื้อที่สุดกันล่ะ หลาย ๆ ท่านเข้าใจว่าการล้างมือด้วยสบู่หรือน้ำยาฆ่าเชื้อนั้นดีกว่าล้างด้วยสบู่ธรรมดา แต่ก็ปรากฎว่าจากข้อมูลของกรมควบคุมและป้องกันโรคของสหรับนั้น เปิดเผยว่า การใช้สบู่ยาฆ่าเชื้อที่มีขายในท้องตลาด ก็ไม่ได้ฆ่าเชื้อโรคได้ดีไปกว่าสบู่ธรรมดาเลย ซ้ำยังฆ่าได้เฉพาะเชื้อโรคอ่อนด้วย ส่วนเชื้อร้าย ๆ ก็ยังคงแพร่พันธุ์ต่อไป การล้างมือที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคที่สุด และง่ายที่สุดกลับกลายเป็นการล้างด้วยแอลกอฮอล์ 70% ที่ฆ่าเชื้อโรคได้มากมาย และแทบไม่มีเชื้อใดที่จะดื้อแอลกอฮอล์ได้เลย แต่อย่างไรดีหากที่ที่คุณอยู่ ไม่มีแอลกอฮล์หรือแม้แต่สบู่ล้างมือ การล้างด้วยน้ำสะอาด ๆ ก็ยังดีกว่าไม่ล้างมือเอาเสียเลยนะคะ
-
ความจริงแล้ว.. ผู้หญิงอ้วนขึ้นเพราะอะไรกันแน่?
ความจริงแล้ว.. ผู้หญิงอ้วนขึ้นเพราะอะไรกันแน่? มีการวิจัยจาก ดร.นาตาลี ล๊อกซ์ตัน ร่วมกับซาแมนธา เบิร์น อาจารย์และนักศึกษา จากคณะจิตวิทยา มหาวิทยาลัยแห่งควีนส์แลนด์ ทั้งสองได้ตั้งประเด็นการวิจัยไว้ว่า การเสพสื่อที่มีโฆษณาอาหารขยะนั้นจะมีผลให้คนมีความอยากอาหารและทานอาหารเพิ่มมากขึ้นได้หรือไม่? แล้วจึงได้เริ่มทดสอบว่าบุคคลที่มีความอยากอาหารสูงจะกระตุ้นให้อยากกินมากขึ้นหลังจากการดูโฆษณาทาทีวีได้มากกว่าผู้ที่ดูโฆษณาอาหารเพื่อสุขภาพ หรือดูรายการที่ไม่มีโฆษณาอาหารเลยหรือไม่ การศึกษาครั้งนี้ได้ทำการแบ่งจำนวนผู้เข้าร่วมทดสอบเป็นชายและหญิงอย่างละ 75 คน ให้ดูทีวีเป็นเวลาครึ่งโมง โดยการแทรกโฆษณาอาหารขยะ อาหารเพื่อสุขภาพ และไม่มีแทรกโฆษณาอาหารเลย แล้วให้คะแนนความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างที่มีต่ออาหาร ว่าหลังจากดูรายการจบแล้ว พวกเขามีความรู้สึกอยากอาหารเพิ่มมากขึ้นหรือเปล่า โดยผลคะแนนของผู้เข้าร่วมทดสอบเหล่านี้พบว่าผู้ที่ดูรายการทีวีที่แทรกโฆษณาอาหารขยะจะมีความรู้สึกอยากอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะในฝั่งผู้หญิง ส่วนผู้ที่ดูโฆษณาชนิดอื่นนั้น แทบไม่มีผลกระทบต่อความอยากอาหารเอาเลย ซึ่งสรุปผลการวิจัยออกมาแล้วก็อาจกล่าวได้ว่า โฆษณาอาหารขยะ อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงรู้สึกอยากอาหารมากขึ้น กินมากขึ้น และอ้วนขึ้น แม้ค่านิยมปัจจุบันจะทำให้รู้สึกกลัวอ้วนก็ตาม
-
กินของหวาน ๆ ทำเด็กสมาธิสั้นจริงหรือ?
กินของหวาน ๆ ทำเด็กสมาธิสั้นจริงหรือ? เป็นเวลานานมาแล้วที่คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายมักจะเชื่อว่าถ้าให้ลูก ๆ ได้กินของหวาน ๆ หรือลูกกวาดต่าง ๆ มาก ๆ เด็ก ๆ จะเริ่มทำตัวไฮเปอร์ จนเหมือนเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น หรือเข้าใจว่าจะทำให้ลูกตัวเองเป็นเด็กสมาธิสั้นด้วยซ้ำไป ซึ่งความจริงแล้วเด็กทุกคนมีความซุกซนและกระตือรือร้นเป็นธรรมชาติของเราดยู่แล้ว การกระโดดโลดเต้นเล่นซนจึงเป็นเรื่องแสนธรรมดาสำหรับเด็กทุกคนนั่นเอง แต่สำหรับผู้ที่จะเป็นโรคสมาธิสั้น…
-
ลุกจากที่นอนไม่งัวเงีย ต้องใช้เทคนิคนี้!
ลุกจากที่นอนไม่งัวเงีย ต้องใช้เทคนิคนี้! มีบางวันเหมือนกันที่รู้สึกว่าตื่นขึ้นมาแล้วไม่สดใสหรือไม่รู้สึกอยากตื่นเอาเสียเลย ทั้งที่ก็นอนอย่างพอเพียงแล้วแท้ ๆ วันนี้ขอนำเอาวิธีเรียกความสดชื่นยามตื่นนอนมาฝากกันค่ะ ลองนำเอาไปทำดูในเช้าวันที่ไม่ค่อยสดใสหรือรู้สึกขี้เกียจกันนะคะ 1. ตื่นจากที่นอนขึ้นมา ให้ดื่มน้ำก่อนเลยค่ะ การดื่มน้ำจะเป็นการเติมความชุ่มชื้นกลับคืนสู่ระบบต่าง ๆ ของร่างกาย เมื่ออวัยวะภายในเริ่มทำงาน ก็จะรู้สึกสดชื่นขึ้นได้เองค่ะ 2. บิด ๆ ยืด ๆ กล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณลำคอและหัวไหล่ ส่วนของลำคอก็ให้หมุนบิดไปมาด้านซ้ายขวา ขึ้นบนลงล่าง ช้า ๆ เบา ๆ ให้ครบทุกทิศทาง ส่วนของหัวไหล่ก็ให้หมุนแขนเหวี่ยงไปข้างหน้าข้างหลังอย่างละ 10 รอบ แล้วเพียงเท่านี้ร่างกายก็จะถูกกระตุ้นให้ตื่นตัวขึ้น สมองปลอดโปร่งขึ้นอีกด้วยนะคะ อย่าลืมสูดลมหายใจเข้าให้ลึก ๆ เพื่อปลุกพลังสมองยามเช้าด้วยค่ะ 3. ทานอาหารเช้าที่มีประโยชน์ ย้ำเลยค่ะว่าต้องทาน และสำคัญยิ่งกว่ามื้ออื่น ๆ ด้วย การอดอาหารเช้าจะทำให้สมองตื้อ ไม่สดใส อาหารเช้าแบบเร่งด่วนที่มีประโยชน์และราคาไม่แพง แนะนำเลยว่าเป็นกล้วยน้ำว้าค่ะ เพราะให้ทั้งวิตามินและโปรตีนที่มีประโยชน์ เหมาะสำหรับในเช้าที่เร่งรีบ ได้นมอีกสักกล่องอยู่ท้องเลยทีเดียวค่ะ 4. น้ำสมุนไพรและน้ำผลไม้ช่วยให้สดชื่นได้เสมอ เลือกน้ำผลไม้ที่ชอบหรือจะลองเป็นน้ำขิงอุ่น ๆ ก็ช่วยให้กระปรี้กระเปร่าและปรับสมดุลของร่างกายได้อย่างยอดเยี่ยม…