Author: pure
-
ตรวจสอบความเสี่ยง…ในการเป็นมะเร็งเต้านม
ตรวจสอบความเสี่ยง…ในการเป็นมะเร็งเต้านม รองจากมะเร็งปากมดลูกแล้ว ก็เห็นจะเป็นมะเร็งเต้านมนี่ล่ะค่ะที่พบได้มากที่สุดในเพศหญิง และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งมีความเสี่ยงถึง 1 ใน 9 ของผู้หญิงเลยทีเดียวที่จะเป็นมะเร็งเต้านม ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านมนั้นได้แก่ การใช้ฮอร์โมนทดแทนในการรักษา เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยทอง, การใช้ยาคุมกำเนิดแบบรับประทานเป็นเวลานาน, ไม่เคยให้นมบุตร, ดื่มเหล้าวันละ 2 แก้วขึ้นไป, อ้วน น้ำหนักตัวมาก, ไม่ออกกำลังกาย รวมทั้งทานอาหารที่มีไขมันมากเกินไปด้วย และปัจจัยบางประการที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ แต่ก็เป็นปัจจัยในการเป็นโรคมะเร็งเต้านมด้วย ก็คือ อายุที่มากขึ้น, การมีประจำเดือนมาเร็วก่อนอายุ 12 ปี และหมดช้าคือหลังอายุ 50 ปี, มีคนในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน หรือมีความผิดปกติของยีนส์ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากพ่อแม่, ไม่เคยมีบุตร หรือมีภายหลังอายุ 50 ปี, เคยตรวจพบว่าเต้านมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ในภาวะก่อนเป็นมะเร็งเต้านม รวมทั้งเคยมีประวัติเป็นมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งลำไส้ใหญ่ รวมไปถึงมีคนในครอบครัวเคยเป็นด้วย สำหรับผู้ที่กังวลว่าตนเองจะเข้าข่ายมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมด้วยนั้น การตรวจคลำเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำ เพื่อหาความผิดปกติ รวมทั้งไปตรวจร่างกายกับแพทย์เป็นประจำก็เป็นการช่วยลดความเสี่ยงและลดความรุนแรงในการเป็นโรคได้อีกวิธีหนึ่ง อีกทั้งการตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มแรกจะมีอัตราการหายจากโรคมากกว่าผู้ที่ไม่คอยตรวจคลำเต้านมด้วยค่ะ
-
สังเกตตัวเอง.. ว่ามีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจหรือเปล่า
สังเกตตัวเอง.. ว่ามีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจหรือเปล่า บางทีโรคหัวใจก็สามารถเกิดขึ้นในร่างกายของคนที่มีสุขภาพดีได้เหมือนกัน โรคนี้เป็นโรคที่จำเป็นต้องเฝ้าระวัง ดังนั้นเราจึงควรหมั่นสังเกตตัวเองไว้ดังต่อไปนี้ค่ะ – เหนื่อยเวลาออกกำลังกายแม้เพียงเล็กน้อย แต่กลับเหนื่อยผิดปกติ เพราะในขณะที่เรากำลังออกกำลังกายหัวใจจะทำงานหนักขึ้น คุณจึงรู้สึกได้ถึงความเหน็ดเหนื่อยมากขึ้นค่ะ – มักจะเจ็บหน้าอก หายใจอึดอัด และแน่นบริเวณหน้าอก พบมากในผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและไขมันอุดตันในหลอดเลือดหัวใจ อาการจะคล้ายมีของหนักกดทับหน้าอกไว้หรือมีโดนรัดหน้าอกทำให้หายใจไม่ออก – เป็นลมหมดสติบ่อย ๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ เกิดเพราะจังหวะการเต้นของหัวใจไม่สม่ำเสมอ เพราะเซลล์ที่ทำหน้าที่ให้จังหวะไฟฟ้าในหัวใจเสื่อมสภาพ หัวใจจึงเต้นช้าลง เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ จึงทำให้เป็นลมได้ ใครเป็นลมหมดสติบ่อย ๆ ควรรีบไปพบแพทย์ – เท้าหรือขาบวม เมื่อกดดูแล้วมีรอยบุ๋มตามนิ้ว และเป็นโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน เพราะคุณอาจอยู่ในภาวะหัวใจล้มเหลวไม่รู้ตัวเมื่อใดก็ได้ – หัวใจหยุดเต้นกะทันหัน มักเกิดกับคนที่ปกติไม่มีอาการของโรคหัวใจมาก่อน หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วอาจถึงกับเสียชีวิตได้ – ตรวจพบความผิดปกติ เช่น เป็นเบาหวานหรือมีไขมันในเลือดสูง หรือเอ็กซเรย์พบว่าหัวใจโตกว่าปกติ ก็มีความเสี่ยงในการเกิดหลอดเลือดหัวใจตีบได้เช่นกัน นับว่าเป็นความเสี่ยงที่สูงไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรรีบไปพบแพทย์ด้วย ส่วนผู้ที่ยังมีหัวใจเป็นปกติอยู่นั้น เราก็ควรดูแลสุขภาพของตัวเองไว้ก่อนที่จะเกิดโรคหัวใจตามมา ได้แก่ การหมั่นสังเกตความผิดปกติของตนเองอยู่เสมอ เช็คอัตราการเต้นของหัวใจว่าปกติดีหรือไม่ มีอาการดังกล่าวข้างต้นบ้างหรือเปล่า และควรออกกำลังกายเป็นประจำ หลีกเลี่ยงความเครียด ดูแลจิตใจให้สดใสเสมอ…
-
เสพสม..ให้สมรัก
เสพสม..ให้สมรัก ระหว่างชีวิตคู่ของคนสองคนนั้น การจะประสบกับความราบรื่นและความสุขได้ก็มักจะมีเรื่องของเพศสัมพันธ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งการจะเสริมสร้างให้ชีวิตคู่มีความสำเร็จสมปรารถนานั้นต้องมีปัจจัยต่าง ๆ เป็นพื้นฐาน ได้แก่ ทั้งคู่ต้องเต็มใจและสมัครที่จะใช้ชีวิตร่วมกันด้วยความรักความเข้าใจ ทั้งสองฝ่ายต่างมีความพึงพอใจในรสนิยม นิสัย ฐานะ ความรูป และรูปร่างภายนอกของกันและกัน รวมทั้งทั้งสองฝ่ายก็ต้องการมีเพศสัมพันธ์ มีความสุขหรือความพอใจในความปรารถนาในร่างกายของอีกฝ่าย รวมไปถึงทั้งสองคนต้องมีความเต็มใจ และมีความรู้สึกที่เป็นอิสระหรือยินยอมพร้อมใจที่จะมีเพศสัมพันธ์กันโดยไม่ได้รู้สึกว่าถูกบังคับ ข่มขู่หรือใช้กำลังในการมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนั้นการจะร่วมครองเรือนกันให้มีความสุขนั้น ควรมีการเปิดใจกันทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายหญิงที่มักคิดว่าเรื่องนี้ความเก็บความรู้สึกไว้ไม่ควรบอกใคร หากบอกแล้วอาจจะทำให้คนอื่นมองดูตนเองไม่ดีได้ บางครั้งจึงส่งผลให้การมีเพศสัมพันธ์กลายเป็นความทุกข์ไม่สุขสมเท่าที่ควรได้ ทางที่ดีควรหันหน้าเข้าหากันดีกว่า โดย.. 1. เปิดใจถึงความต้องการของกันและกันอย่างจริงใจและให้เกียรติ อาจเป็นการพูดคุย การเขียนโน้ตบอก หรือการแสดงออกด้วยหน้าตาและสีหน้า รวมทั้งสัมผัสทางกาย 2. ยอมรับซึ่งกันและกัน โดยการยอมรับว่าเรื่องเพศสัมพันธ์นั้นสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ และไม่ควรเก็บหรือปิดบังไว้เพราะจะกลัวว่าทำร้ายความรู้สึกของอีกฝ่าย สำหรับการเสริมสมรรถภาพทางเพศ ก็คือการทำร่างกายให้แข็งแรงไปด้วยทางหนึ่ง ด้วยการทานอาหารที่มีคุณค่า ดูแลจิตใจให้เบิกบาน ออกกำลังกายเป็นประจำ รวมทั้งมีทัศนคติที่ดีในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ตนรัก รักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งหาอะไรที่แปลกใหม่มาเพิ่มความสุขให้แก่กันและกัน บางครั้งอาจเปลี่ยนสถานที่เป็นที่ ๆ โรแมนติกมากขึ้น ลองใส่ชุดหรือเสื้อผ้าที่ไม่เคยใส่ สร้างบรรยากาศภายในห้องนอนเหมาะสม เป็นต้น สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายต้องตระหนักก็คือ ควรมีความรับผิดชอบในการมีเพศสัมพันธ์กันทุกครั้ง ควรเป็นเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยจากโรคติดต่อ ใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรคเอดส์และการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ รวมทั้งป้องกันไวรัสเอชพีวีที่อาจเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกด้วย
-
มารู้จักกับภาวะคลื่นสมอง ที่เหมาะสำหรับการเรียนรู้อย่างมีศักยภาพ
มารู้จักกับภาวะคลื่นสมอง ที่เหมาะสำหรับการเรียนรู้อย่างมีศักยภาพ จากคำกล่าวของนักจิตวิทยา Neo Humanist ได้บอกไว้ว่า “คนเราจะเกิดการเรียนรู้ ตลอดจนใช้ศักยภาพของตนเองได้ดีที่สุดเมื่อคนเรามีความสบายใจและมีความสุข” ซึ่งภาวะคลื่นสมองที่เหมาะที่สุดคือ สภาวะคลื่นสมองต่ำ ซึ่งคลื่นสมองนี้จะแปรผันตามสภาวะจิตใจของคนผุ้นั้น โดยสามารถแบ่งออกเป็นลักษณะใหญ่ ๆ ดังนี้ 1. เบต้าเวฟ Beta Wave มีความถี่ประมาณ 13 หรือมากกว่า 13 รอบต่อนาที เกิดขึ้นในสภาวะจิตสำนึกตื่นตัว แต่มีจังหวะไม่แน่นอน ซึ่งเกิดจากจิตใจที่วุ่นวายสับสนของเรา 2. อัลฟ่าเวฟ Alpha Wave มีความถี่ประมาณ 8 รอบต่อวินาที เป็นคลื่นสมองที่มีจังหวะแน่นอน เกิดขึ้นในสภาพจิตใจที่สงบและมีความตื่นตัวอยู่เสมอ เป็นช่วงคลื่นที่ทำให้จิตใจสงบและมีความสมดุลพร้อมที่จะทำการงานทุกอย่าง 3. เตธต้าเวฟ Theta Wave มีความถี่ประมาณ 4 รอบต่อวินาที เป็นช่วงคลื่นที่มีช้าลงและมีพลังงานสูงขึ้น ในช่วงคลื่นนี้คนเราจะเกิดความคิดสร้างสรรค์ เกิดความรู้สึกกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว และเกิดปิติสุขอย่างท้วมท้น 4. เดลต้าเวฟ Delta Wave มีความถี่ประมาณหนึ่งรอบต่อวินาที เมื่อพลังงานเพิ่มสูงขึ้นความปิติสุขก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นตาม…
-
พิษของสุราที่มีต่อตับ!!!
พิษของสุราที่มีต่อตับ!!! สุรานั้น ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์โลกเป็นเวลายาวนานกว่าสี่พันปีแล้ว มีหลากหลายชนิดและรสชาติแตกต่างกันไปตามแต่เชื้อต้นกำเนิดและผลไม้ที่นำมาหมัก ไม่ว่าจะเป็น เหล้า วิสกี้ ไวน์ เบียร์ พันช์ ฯลฯ และสุราเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่เป็นพิษต่อสุขภาพของมนุษย์ด้วย แม้แต่ในศาสนาพุทธเองก็ยังให้พึงละเว้นสุราไว้เพื่อมิให้ขาดสติ เพราะผลของการดื่มเหล้านั้นนอกจากอุบัติเหตุที่ส่งผลเสียแก่ผู้อื่นโดยรอบตัวแล้ว ก็ยังส่งผลให้ตัวเองได้รับอันตรายจากสุราไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตับนั่นเอง สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ ตับเป็นอวัยวะหลักที่ย่อยแอลกอฮอล์ การดื่มเหล้าเป็นประจำจะเกิดปัญหากับตับในสี่แบบก็คือ ไขมันพอกตับ ตับอักเสบ ตับแข็ง จนถึงมะเร็งตับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนที่ดื่มจะเป็นโรคตับเหล่านี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยดังต่อไปนี้ – ขึ้นอยู่กับปริมาณและระยะเวลาที่ดื่ม ซึ่งมีการศึกษาพบว่าเมื่อดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 30 กรัมต่อวันในเพศชาย และ 20 กรัมในเพศหญิงแล้ว จะถือว่าอยู่ในข่ายที่ได้รับความเสี่ยงในการเป็นโรคตับ – ขึ้นอยู่กับอายุและเพศ หากดื่มในปริมาณเท่ากันแล้ว ผู้หญิงจะเสี่ยงเป็นโรคตับมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า – ขึ้นอยู่กับเชื้อไวรัสตับอักเสบที่มีอยู่เดิม หากมีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือซีอยู่แล้วจะทำให้การดำเนินโรคแย่กว่าผู้ที่เป็นโรคตับจากแอลกอฮอล์อย่างเดียว – พันธุกรรมและยาบางชนิดก็เป็นปัจจัยเสี่ยงกระตุ้นโรคด้วยเช่นกัน อาการของโรคตับนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของโรค ผู้ที่ไขมันพอกตับ หรือตับอักเสบเล็กน้อยจะไม่มีอาการผิดปกติหรืออาการจะไม่เฉพาะเจาะจงมากนัก เช่น ปวดชายโครงขวา มีไข้ อ่อนเพลีย ฯลฯ ส่วนผู้ที่เป็นโรคตับแข็ง จะมีอาการคือ…
-
อาการความดันโลหิตสูง…ต้นเหตุสารพัดโรค
อาการความดันโลหิตสูง…ต้นเหตุสารพัดโรค ความดันโลหิต หมายถึง แรงดันของโลหิตที่เกิดจากหัวใจทำการสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งแบ่งออกเป็นสองค่า ก็คือค่าความดันขณะที่หัวใจบีบตัว (ตัวบน) และค่าความดันขณะที่หัวใจคลายตัว (ตัวล่าง) โดยปรกติคนทั่วไปจะมีค่าความดันโลหิตอยู่ที่ 120/80 มม.ปรอท แต่หากความดันโลหิตเกินกว่า 140/90 ขึ้นไป ถือได้ว่าเข้าข่ายเป็นโรค “ความดันโลหิตสูง” ซึ่งควรใส่ใจดูแลตนเองให้มาก ป้องกันภาวะความดันโลหิตสูงขึ้นและโรคอื่น ๆ ที่จะตามมาทั้งโรคหัวใจและโรคหลอดเลือด สาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง เกิดได้หลายกรณี ไม่ว่าจะเป็น หลอดเลือดมีการหดตัวผิดปกติ การสะสมของไขมันบริเวณผนังหลอดเลือด หรือการสะสมน้ำและเกลือแร่ในร่างกายมากเกินไป ฯลฯ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้หัวใจจะทำงานหนักมา และในระยะยาวหลอดเลือดจะเกิดความเสื่อมไปทั่วร่าง แรก ๆ จะทำให้มีโปรตีนรั่วออกมาปนกับปัสสาวะจนตรวจพบได้ แต่ในระยะยาวจะทำให้ไตเสื่อมจนขับของเสียและเกลือแร่ออกมาได้น้อยลง เกลือแร่ที่ตกค้างจึงยิ่งทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นไปอีก จนไตวายในที่สุด ผู้ที่ทราบว่าตนเป็นมีอาการความดันโลหิตสูง จึงควรควบคุมความดันของไว้และหมั่นตรวจความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ ทานยาตามแพทย์สั่งอย่างต่อเนื่องอย่าหยุดยาไปเอง และพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง ควบคุมน้ำหนักตัว ลดอาหารที่มีโซเดียมหรือเกลือ อาหารที่มีไขมันสูง ลดการดื่มกาแฟ เหล้า บุหรี่ ทานผักผลไม้ให้มาก ออกกำลังให้สม่ำเสมอ และที่สำคัญไม่แพ้อย่างอื่นก็คือพยายามผ่อนคลายตนเองอย่างให้เครียดด้วยค่ะ เพราะความเครียดก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญทำให้ความดันโลหิตพุ่งสูงขึ้นได้เช่นกันค่ะ
-
กินเจอย่างไรให้ Slender !!!
กินเจอย่างไรให้ Slender !!! ในช่วงเทศกาลกินเจนั้น ก็มักมีอาหารเจจำหน่ายกันมากมาย ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของการกินเจก็เพื่อให้จิตใจได้สละความอยากในการทานเนื้อสัตว์ หัดทานอาหารเพียงเพื่อบำรุงธาตุขันธ์ ไม่เบียดเบียนชีวิตผู้อื่น และประโยชน์จากการทานเจอีกประการหนึ่งก็คือผู้ทานเจจะมีสุขภาพดี เพราะได้ทานผัก ผลไม้ และโปรตีนจากพืชเป็นจำนวนมาก เมื่อทานได้ระยะหนึ่งจะทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะสมดุลมากขึ้น ร่างกายขับสารพิษออกมามากขึ้น สารพิษตกค้างในร่างกายจึงลดลง อีกทั้งได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายในผักผลไม้ ทำให้ร่างกายได้รับเส้นใยอาหารมากขึ้น การขับถ่ายก็ดีขึ้น แต่บางเมนูอาหารเจก็มีแป้งเป็นส่วนประกอบแทนเนื้อสัตว์อยู่มาก หรือมีน้ำตาลผสมอยู่มาก แล้วจะไม่อ้วนน้ำหนักขึ้นหรือ หากคุณต้องการกินเจให้มีสุขภาพดีขึ้นด้วย ลองนำคำแนะนำเหล่านี้ไปเลือกอาหารเจเพื่อสุขภาพมาทานกันนะคะ 1. ในหมวดของข้าว ควรทานแป้งที่ไม่ขัดขาว เช่น ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต โฮลเกรน ลูกเดือย ธัญพืช เส้นหมี่โมโรเฮยะ ถั่วต่าง ๆ เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน จึงทำให้อิ่มอยู่ท้องได้นาน มีวิตามินมาก ทำให้ร่างกายค่อย ๆ ปลดปล่อยน้ำตาลออกมาเรื่อย ๆ จึงไม่โหยน้ำตาลหรือของหวานด้วย 2. ควรเลือกทานผักใบ ให้มากกว่าผักหัว เพราะในผักหัวมีแป้งค่อยข้างมาก การกินผักใบจะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานและแป้งน้อยกว่า จึงทำให้อ้วนน้อยกว่า 3. เลือกซื้ออาหาร หรือปรุงอาหารด้วยการต้ม ตุ๋น นึ่ง ปิ้ง…
-
เทคนิคการเลือกทานอาหารไขมันน้อย สุขภาพดี
เทคนิคการเลือกทานอาหารไขมันน้อย สุขภาพดี อาหารหมวดที่มีความจำเป็นต่อสุขภาพหมวดหนึ่งที่ร่างกายจะขาดเสียมิได้เลยก็คือ “ไขมัน” นั่นเป็น เพราะเป็นสารอาหารที่สร้างความอบอุ่นและให้พลังงานกับร่างกาย มีคุณสมบัติช่วยดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมันได้ ได้แก่ วิตามิน A, D, E และ K โดยในอาหารแทบทุกชนิดนั้นมีไขมันเป็นส่วนประกอบอยู่แล้ว จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่ชนิดของอาหาร พบได้ทั้งในพืชและในสัตว์ แต่การทานอาหารของคนไทยนั้น ทานไขมันมากกว่าในอดีตกันมากและยังมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกด้วยในอนาคต ผลกระทบก็คือทำให้มีรูปร่างอ้วน น้ำหนักเกิน มีโรคอื่น ๆ ตามมามากมาย อันตรายต่อชีวิตแทบทั้งนั้น การเลือกทานอาหารจึงควรจำกัดปริมาณของไขมันในแต่ละมื้อและแต่ละวัน โดยอย่างมากให้ร่างกายรับพลังงานจากไขมันไม่ควรเกินร้อยละ 20 ของพลังงานที่ได้รับทั้งหมด ไขมันในอาหารแบ่งออกได้เป็นสองประเภท ก็คือ ไขมันอิ่มตัวและไขมันไม่อิ่มตัว โดยมาก ไขมันอิ่มตัวจะพบได้ในเนื้อสัตว์ เครื่องใน หนังสัตว์ เนย ฯลฯ ส่วนคอเลสเตอรอลจะมีในเนื้อสัตว์แทบทุกชนิดชนิด รวมไปถึงเครื่องใน ไข่แดง ปลาหมึก อาหารทะเล หอยนางรม เมื่อทานมากเกินความจำเป็นก็จะทำให้ระดับของคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ทำให้เกิดโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคหลอดเลือดหัวใจ ฯลฯ เทคนิคในการเลือกอาหารที่มีไขมันต่ำเพื่อสุขภาพที่ดีก็ได้แก่ – ทานเนื้อสัตว์ที่ไขมันต่ำ เช่น เนื้อปลา เนื้อไก่ไม่ทานหนัง เลี่ยงการทานหนังหมู…
-
ดูแลหัวใจของคุณ…ให้ดีนะ
ดูแลหัวใจของคุณ…ให้ดีนะ โรคที่เป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งก็คือโรคหัวใจนั่นเองค่ะ แล้วก็ยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งในประเทศไทยนั้นมีคนตายจากกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด ทั้งโรคหัวใจขาดเลือด หัวใจล้มเหลว หลอดเลือดสมองและความดันโลหิตสูง ฯลฯ และแต่ละปียังเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างน่ากลัวอีกด้วยค่ะ ซึ่งสาเหตุของโรคหัวใจและหลอดเลือดนั้น เกิดจากการที่ผนังด้านในของหลอดเลือดมีไขมันมาพอกตัวจนหนาขึ้น หลอดเลือดจึงขาดความยืดหยุ่น แข็งตัวขึ้น การไหลเวียนของเลือดจึงลดลง จึงทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง รวมไปถึงการสูบบุหรี่และสูดควันจากผู้อื่น การดื่มเหล้าและมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานก็เป็นสาเหตุด้วยเช่นกัน และเพื่อหัวใจที่จะมีสุขภาพแข็งแรงไปนาน ๆ เราจึงควรปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้ – ทานโปรตีนที่ไขมันต่ำ ทั้งเนื้อปลาและถั่ว ทานปลาและผลไม้รสไม่หวานให้บ่อย ๆ – อย่าทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและอาหารสำเร็จรูปที่มีส่วนผสมของโซเดียม(เกลือ) มากนัก – ไม่ควรปรุงอาหารมากเกินไปนัก ทานแต่รสที่พอเหมาะ ไม่ควรทานหวาน มัน เค็ม เผ็ดมากเกิน – เลี่ยงการดื่มน้ำอัดลม น้ำหวาน เครื่องดื่มชูกำลังทั้งหลาย – ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในมาตรฐาน และกินให้น้อยกว่าพลังงานที่ใช้หากมีน้ำหนักตัวเกิน – คุมรอบพุงให้ดี เพศชายไม่เกิน 90 เซนติเมตรและเพศหญิงไม่เกิน 80 เซนติเมตร – หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอวันละครึ่งชั่วโมง อาทิตย์ละ 3-4…
-
ประโยชน์ของข้าวกล้องที่ดีกว่าข้าวขาว
ประโยชน์ของข้าวกล้องที่ดีกว่าข้าวขาว ตั้งแต่โบราณมาแล้วที่ปู่ย่าตายายเราทานแต่ข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือกัน จึงทำให้คนในสมัยก่อนแข็งแรง และไม่ค่อยเจ็บป่วยได้ง่าย แต่ในสมัยปัจจุบันกลับทานข้าวขาวที่มีคุณภาพด้อยกว่าทุกด้านกันวันละสามมื้อ เราจึงแข็งแรงสู้บรรพบุรุษเราไม่ได้ อีกทั้งการกินข้าวกล้องยังอิ่มอยู่ท้องได้นาน มีวิตามินและเกลือแร่มหาศาล ระบบการขับถ่ายก็ดี อีกทั้งเวลาเคี้ยวในปากยังหวานและกรุบกรอบนิด ๆ มากกว่าข้าวขาวอีกด้วยนะคะ ข้าวซ้อมมือหรือข้าวกล้องเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับคนทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือคนชรา เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่กำลังฟื้นฟูสภาพด้วย และเป็นอาหารที่ดีสำหรับผู้ที่ป่วยเรื้อรัง หากในครอบครัวใดมีคนป่วยลองนำสูตรครีมข้าวกล้องนี้ไปทำทานดู เพียงเลือกใช้ข้าวกล้องที่เม็ดสมบูรณ์ ล้างให้สะอาดแล้วใส่หม้อสเตนเลสเติมน้ำ 3-5 ส่วนแล้วปิดฝาตั้งไฟปานกลางจนข้าวเดือด 15 นาทีใส่เกลือทะเล 1 ก้อนเล็กแล้วหรี่ไฟอ่อนนาน 1 ชม. หลังจากนั้นนำมาครูดกับกระชอนก็จะได้ครีมข้าวกล้องที่อร่อยและมีประโยชน์มาก สามารถทานคู่กับซุปผักก็ได้ เป็นอาหารที่ทานง่ายสบายท้องมาก แล้วในข้าวกล้องมีประโยชน์อะไรบ้างล่ะ 1. ในข้าวกล้องมีโปรตีนมากว่าร้อยละ 20-30 แต่มีแป้งน้อยกว่าข้าวขาว จึงช่วยลดความอ้วนได้ดี และคนที่รูปร่างซูบผอมจะสมบูรณ์แข็งแรงขึ้นได้ด้วยสารอาหารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ 2. ข้าวกล้องมีวิตามินบีมากกว่าในข้าวขาว ป้องกันโรคเหน็บชา มีวิตามินบีสองป้องกันโรคปากนกกระจอก และวิตามินบีรวมป้องกันและบรรเทาอาการอ่อนเพลีย ปวดขา ปวดน่อง ลิ้นแตก ปลายประสาทอักเสบและโรคทางระบบประสาท ช่วยบำรุงสมอง ทำให้ความจำดีและเจริญอาหารมากขึ้น 3. มีธาตุเหล็กมากว่าในข้าวขาวถึงสองเท่า จึงช่วยป้องกันโลหิตจางได้ 4. มีฟอสฟอรัสและแคลเซียมมากกว่า…