Author: pure
-
โรคถุงลมโป่งพอง เป็นได้ก็สุขได้
โรคถุงลมโป่งพอง เป็นได้ก็สุขได้ แม้ว่าโรคถุงลมโป่งพอง หรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังนั้น จะเป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีอาการทุเลาลง หรือกำเริบน้อยลงไม่ได้ เพราะจุดเริ่มต้นของโรคนี้เกิดจากการสูบบุหรี่มานาน จึงระคายเคืองเยื่อบุผิวของหลอดลมจนอักเสบ หากเป็นแล้วเราก็ต้องจัดการดูแลสุขภาพของเราให้ดี ด้วยการปฏิบัติตามวิธีดังต่อไปนี้ 1. หยุดสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาด เพราะนี่คือต้นเหตุของโรค รวมทั้งหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีควันหรือไอสารเคมีที่สร้างความระคายเคืองต่อปอดและหลอดลม เพราะผู้ป่วยโรคนี้จะมีความไวต่อสารกระตุ้นเหล่านี้มาก ทำให้หลอดลมตีบเฉียบพลันได้ 2. อาหารประเภทแป้งให้พลังงานน้อยกว่าไขมัน แต่จะได้คาร์บอนไดออกไซด์จากการเผาผลาญมากกว่า ทำให้ระบบการหายใจต้องทำงานหนักขึ้น ควรทานไขมันที่ดีมีคอเลสเตอรอลต่ำ มีไขมันอิ่มตัวต่ำได้แก่ ปลาที่มีกรดไขมันโอเม้าสาม ช่วยต้านการอักเสบ น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด น้ำมันมะกอก และโปรตีนคุณภาพสูงอย่างเนื้อปลา ไข่ขาว เนื้อไก่ เป็ด หมูไม่ติดหนังหรือมัน อีกทั้งควรทานผักหลากสีเพื่อให้ได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่ครบถ้วน แถมยังได้สารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันเซลล์ของร่างกายอีกด้วย 3. ดื่มน้ำสะอาดให้พอเพียง เพราะน้ำจะทำให้เสมหะเหลวขึ้น ควรดื่มอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน เลี่ยงเครื่องดื่มหวาน ๆ ผสมน้ำตาล ดื่มน้ำเปล่าดีที่สุดแล้วยังทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นด้วย 4. ออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายกล้ามเนื้อทุกส่วน โดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่ช่วยหายใจ ได้แก่ กล้ามเนื้อของคอ ไหล่ รอบสะบัก หน้าอก แล้วต่อด้วยกายบริหารกล้ามเนื้อคอ ไหล่…
-
รู้จักบริหารจัดการความเครียดเวลาทำงาน
รู้จักบริหารจัดการความเครียดเวลาทำงาน เวลาเราอยู่ในที่ทำงาน การจัดการบริหารอารมณ์และความเครียดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเป็นการช่วยให้จิตใจของเราลดความเครียดลงได้แล้ว ยังช่วยรักษาความสัมพันธ์และบรรยากาศอันดีระหว่างตัวเราและเพื่อนร่วมงานไว้ด้วย แล้วเราจะบริหารจัดการความเครียดและอารมณ์ในแง่ลบกันอย่างไรดี? มาดูกันทีละขั้นนะคะ 1. รู้ให้ทันอารมณ์ตนเอง การรู้ทันอารมณ์ทำให้รู้ว่าขณะนี้กำลังรู้สึกอย่างไรอยู่ ให้ฝึกจับสังเกตอารมณ์ที่เกิดขึ้นก่อนการแสดงออกไปเสมอ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ด้านดี หรืออารมณ์ด้านลบก็ตามเมื่อเราสามารถรู้ทันอารมณ์ตนเองได้แล้ว ก็จะสามารถควบคุมการแสดงออกได้ ไม่ว่าจะเป็น การยิ้ม การหัวเราะแต่พอดีพองาม รวมไปถึงเวลาโกรธหรือหงุดหงิด เราก็จะไม่ทำอะไรหุนหันพลันแล่น มีเวลาไตร่ตรองถึงผลที่ตามมาอยู่เสมอ 2. เข้าใจว่าการทะเลาะกันนั้น เป็นเพราะต่างคนต่างก็พยายามที่จะรักษาศักดิ์ศรีของตัวเอง เพราะกลัวถูกหยาม กลัวเสียหน้าถ้าต้องยอมตามความคิดคนอื่น การยึดถือศักดิ์ศรีไว้เช่นนี้มีแต่จะทำให้เกิดความขัดแย้งกัน 3. เวลาโมโหหรืออารมณ์เสียมาจากที่อื่น อย่าเอาอารมณ์มาลงกับเพื่อนร่วมงานหรือคนอื่นที่เขาไม่รู้เรื่องด้วย สร้างความขัดแย้งและเข้าใจผิดต่อกันเปล่า ๆ แยกแยะให้ดี แต่คุณก็สามารถขอคำปรึกษาเพื่อระคายความคับข้องใจหรือขอความเห็นใจจากผู้อื่นได้ 4. หัดให้อภัย หัดปล่อยวาง ไม่คิดมาก ไม่จับผิดผู้อื่น จะลดโทสะได้มาก หากรู้สึกเศร้า เสียใจจะร้องไห้ออกมาก็ไม่ผิด แต่ไม่ควรทำในที่ทำงาน ไปที่ระบายในที่ลับตาดีกว่า การร้องไห้เป็นการระบายความกดดันทางอารมณ์ได้ดีแบบหนึ่ง ช่วยให้ผ่อนคลายได้มากขึ้น เราควรหมั่นสังเกตอารมณ์และความรู้สึกตัวเองอยู่เสมอว่าอยู่ในอารมณ์แบบใด เมื่อรู้เท่าทันอารมณ์สามารถควบคุมอารมณ์ไว้ได้ และรู้จักหันเหความเครียดไปทางอื่น ความเครียดของตนเองก็ลดลง และรักษาความสัมพันธ์กับผู้อื่นไว้ได้ดีด้วย
-
การออกกำลังกายที่พอเหมาะ…สำหรับคนเป็นเบาหวาน
การออกกำลังกายที่พอเหมาะ…สำหรับคนเป็นเบาหวาน การออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานเป็นเรื่องที่สำคัญในการควบคุมโรคด้วยเช่นกัน ทำให้ระดับของน้ำตาลในกระแสเลือดลดลง แต่จะลดมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ ระยะเวลาที่ออกกำลังกาย ความหนัก และระดับน้ำตาลก่อนการออกกำลังกาย รวมทั้งการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอด้วย ซึ่งการออกกำลังกายของผู้ป่วยเบาหวานทั้งสองชนิด นั้นมีวิธีการที่แตกต่างกัน เพราะเป็นผลมาจากการนำพลังงานไปใช้และเผาผลาญพลังงานที่แตกต่างกันนั่นเอง การออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 หรือชนิดที่พึ่งอินซูลิน หากมีสุขภาพทั่วไปดีอยู่ ให้ออกกำลังกายวันละ 20 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง แต่ต้องควบคุมโรคและใช้ยาอินซูลินให้ดีก่อนออกกำลังกาย ผู้ป่วยควรสามารถวัดระดับน้ำตาลในเลือดของตนเองได้หากต้องการออกกำลังกายหนัก ๆ และเข้าใจการปรับเปลี่ยนการใช้หรืออินซูลินของตนเองด้วย ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ควรออกกำลังกายในช่วงเวลา บ่ายสามถึงห้าโมงเย็น หลังทานอาหารว่างแล้วประมาณครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง วันเว้นวัน และไม่ควรออกกำลังกายขณะที่อินซูลินออกฤทธิ์สูงสุด หากออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องแล้วแพทย์อาจแนะนำให้ลดการการใช้อินซูลินลง ส่วนการออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ชนิดที่ยังต้องพึ่งอินซูลิน ควรออกกำลังกายแบบเหนื่อยปานกลางอย่างต่อเนื่องประมาณครึ่งชั่วโมงต่อวัน เช่น การเดินเร็ว การว่ายน้ำ การเดินในน้ำ โยคะ รำมวยจีน หรือปั่นจักรยานอยู่กับที่ เพื่อให้ชีพจรเร็วขึ้น ควรอบอุ่นร่างกายก่อนเสมออย่างน้อย 5-10 นาที แล้วจึงค่อย ๆ เพิ่มการออกกำลังกายขึ้นแต่ไม่ควรหักโหมเกินไป เมื่อต้องการหยุดออกกำลังกายให้ค่อย ๆ ผ่อนลงเรื่อย ๆ เรียกว่าคูลดาวน์ ประมาณ 5-10…
-
แม้แต่เด็กเล็ก…ก็ควรระวังโรคเบาหวานด้วยนะ
แม้แต่เด็กเล็ก…ก็ควรระวังโรคเบาหวานด้วยนะ โรคเบาหวานนี้ องค์การอนามัยโลกได้ระบุว่าเป็นภัยร้ายที่กำลังคุกคามมนุษย์ไปทั่วทุกมุมโลกมากที่สุด อันตรายมากกว่าโรคเอดส์ เพราะปี ๆ หนึ่งมีผู้เสียชีวิตจากโรคเบาหวานถึงปีละสามล้านกว่าคนทั่วโลก และถือเป็นประวัติศาสตร์โลกเลยว่านี่คือโรคไม่ติดเชื้อที่คร่าชีวิตผู้คนได้มากกว่าโรคติดเชื้อหรือโรคระบาดในอดีตที่โลกเคยมีมากเสียอีก ทั่วโลกมีผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะโรคเบาหวานจากสภาวะอ้วนทำให้การทำงานของอินซูลินมีปัญหา ซึ่งมีสาเหตุมาจากการกินอาหารที่มีไขมันและคาร์โบไฮเดรตมากเกินสัดส่วน รวมไปถึงการขาดการออกกำลังกายด้วย ในประเทศไทยเองโรคเบาหวานนี้ก็เริ่มจู่โจมเข้าในวัยเด็กแล้ว และตามโรงพยาบาลก็พบผู้ป่วยโรคเบาหวานในเด็กที่มีอายุน้อยลงไปเรื่อย ๆ ทุกที ล่าสุดพบเด็กป่วยเป็นโรคเบาหวานมีอายุเพียงแปดขวบเท่านั้น แต่มีน้ำหนักตัวมากถึง 60 กิโลกรัม น้ำหนักตัวขนาดนี้ถือว่าอ้วนเกินมาตรฐานไปมาก อาจต้องกินยาตลอดชีวิต และบางรายมีภาวะแทรกซ้อนที่ไต ตา ประสาทส่วนปลายบริเวณขาและเท้าเกิดความยากลำบากและทุกข์ทรมานในการใช้ชีวิต ตายเร็วขึ้นด้วย วิธีการสังเกตว่าบุตรหลานของท่านเป็นเบาหวานแล้วหรือยังก็คือ ให้สังเกตว่าผิวหนังบริเวณรอบคอและรักแร้ดำเป็นปื้น ฉี่บ่อย หิวบ่อย กินจุ ชาบริเวณปลายมือปลายเท้า หรือในครอบครัวมีผู้ป่วยเป็นเบาหวาน นับตั้งแต่ พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ฯลฯ หากรักลูกหลาน อยากให้มีสุขภาพแข็งแรง ควรดูแลสุขภาพให้ดีแต่เด็ก ๆ ด้วยการให้ทานอาหารให้ครบทุกหมู่และหลากหลายตามที่ร่างกายต้องการ สอนให้เด็กกินผักให้เป็น แล้วกินผลไม้แทนขนมถุง ขนมกรอบต่าง ๆ ดื่มน้ำสะอาดแทนน้ำอัดลม พากันไปวิ่งเล่นออกกำลังกายแทนการเอาแต่นั่งจุมปุ้กหน้าทีวีหรือเล่นเกมส์ทั้งวัน เด็กจะมีสุขภาพแข็งแรงและมีสุขนิสัยการกินที่ดีได้ ต้องมีพ่อแม่ปู่ย่าตายายเป็นตัวอย่างด้วย หากคุณไม่ยอมกินผัก หรือออกกำลังกายแล้วเด็กจะทำได้อย่างไรล่ะคะ?
-
ดูแลตัวเองให้มีความสุขแม้จะเป็นโรคเบาหวาน
ดูแลตัวเองให้มีความสุขแม้จะเป็นโรคเบาหวาน โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังไม่ติดต่อที่จำเป็นต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ อาการของโรคนี้คือร่างกายไม่สามารถเผาผลาญน้ำตาลให้เป็นพลังงานได้ตามปกติ น้ำตาลในเลือดจึงสูงขึ้นและถูกขับออกมากับปัสสาวะ โรคนี้แม้จะต้องการวินัยในการควบคุมน้ำตาลอยู่มาก แต่หากดูแลดี ๆ แล้วจะมีสุขภาพปกติได้เหมือนคนทั่วไปเช่นกัน ซึ่งขั้นแรกของการดูแลก็คือต้องทำให้น้ำหนักตัวอยู่ในมาตรฐาน อย่าปล่อยตัวให้อ้วนน้ำหนักเกิน ด้วยการดูแลร่างกายดังนี้ – ขยับตัวบ่อยๆ เคลื่อนไหวร่างกายมาก ๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด เช่น อยู่ในออฟฟิศก็ใช้บันไดแทนการใช้ลิฟท์ หรืออยู่บ้านก็ปัดกวาดเช็ดถูบ้านให้สะอาดเรียบร้อยเสมอ ๆ ฯลฯ – ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 30-40 นาที เลือกตามที่ชอบไม่ว่าจะเป็นการเดินจ๊อกกิ้ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิค ก็ได้ทั้งนั้น – เปลี่ยนจากข้าวขาวเป็นข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้องที่มีคุณค่าทางอาหารมากกว่า มีเส้นใยอาหารมากกว่า ช่วยให้น้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดได้ช้าลง การทานข้าวกล้องจึงทำให้อิ่มได้นาน อยู่ท้อง ช่วยในการลดน้ำหนักได้ดีกว่า – เลือกทานผักและผลไม้ที่มีรสไม่หวานนัก หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลสูง เลือกอาหารที่ปรุงด้วยการต้ม นึ่ง ย่าง แทนการผัดหรือทอด จะช่วยลดไขมันสะสมในร่างกายได้มากเลยค่ะ – ทานอาหารที่ปรุงรสแต่น้อย เลี่ยงอาหารที่เค็มจัด มันมาก…
-
อาหารที่..มีประโยชน์ต่อสุขภาพปากและฟัน
อาหารที่..มีประโยชน์ต่อสุขภาพปากและฟัน นอกจากอาหารที่เราทานเข้าไปจะช่วยเสริมสร้างซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของอวัยวะภายในและร่างกายแล้ว ยังมีผลต่อการทำให้ปากและฟันแข็งแรงหรืออ่อนแอลงด้วย ดังนั้นเรามาศึกษาเกี่ยวกับอาหารชนิดต่าง ๆ ที่มีทั้งประโยชน์และโทษต่อสุขภาพปากและฟัน รวมไปถึงเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในช่องปาก เพื่อต่อไปนี้จะได้เลือกทานอาหารที่ดีมีประโยชน์กันดีกว่าค่ะ – เกลือแร่ อาหารจำพวกนี้จะช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ได้แก่พวก แคลเซียม ฟอสฟอรัส ฟลูออไรด์ พบได้มากในอาหารทะเล ปู ปลา กุ้ง นม เนื้อสัตว์ ไข่แดง ตับ รวมไปถึงใบเมี่ยงและใบชามีฟลูออไรด์อยู่มาก ที่ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง – คาร์โบไฮเดรต คืออาหารกลุ่มแป้งและน้ำตาล ทำให้ฟันผุกได้ง่าย เพราะจุลินทรีย์ในช่องปากจะทำปฏิกิริยากับน้ำตาลที่ตกค้างอยู่ที่ฟัน เกิดเป็นกรดทำให้ฟันผุ ยิ่งหากเป็นอาหารที่มีความหวานและเนื้อเหนียว เช่น ท๊อฟฟี่ ตังเม คุกกี้ ช็อกโกแลต ก็ยิ่งติดฟันง่าย หากทำความสะอาดไม่ทั่วถึง ก็ทำให้ฟันผุง่ายขึ้นไปใหญ่ – ผักผลไม้ต่าง ๆ มีกากใยอาหารที่ช่วยขัดสีทำความสะอาดฟันให้สะอาด ซึ่งเหมาะสำหรับการทานหลังอาหารคาว ช่วยทำความสะอาดฟันได้อีกทางหนึ่ง ผลไม้ที่ควรทานไม่ควรเลือกชนิดที่หวานมากนัก ที่เหมาะ ๆก็น่าจะเป็น แอปเปิ้ล ฝรั่ง ชมพู่ มันแกว…
-
10 เคล็ดลับดูแลสุขภาพจิตใจในยามพบวิกฤต
10 เคล็ดลับดูแลสุขภาพจิตใจในยามพบวิกฤต ในยามวิกฤตหรือยามที่พบกับเรื่องไม่คาดฝัน บางคนที่ไม่เคยฝึกสติเลย ก็มักจะจิตหลุด ตกใจ เครียดกันมากมาย ดังนั้นเมื่อเจอกับเรื่องไม่คาดฝันในชีวิตเรามาตั้งสติ และความกำลังใจในการแก้ปัญหากันดีกว่าค่ะ 1. เมื่อมีปัญหาเข้ามาให้ตั้งสติให้มั่นคง มองให้เห็นทุกปัญหาว่ามีทางออกเสมอ 2. มองหากำลังใจและที่พึ่งทางใจ ไม่ว่าจะเป็นกำลังใจจากครอบครัว จากครูบาอาจารย์ จากพระอาจารย์ในศาสนา การแสวงหาความเชื่อมั่นว่าชีวิตนี้ย่อมมีทางออกเสมอ และพยายามมองหาแง่บวก 3. เวลาเครียดให้หายใจเข้าออกลึก ๆ เพื่อเป็นการผ่อนคลายและเพิ่มสติมากขึ้น 4. แม้จะเครียดขนาดไหนก็ต้องนอนหลับให้พอเพียง อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง และเข้านอนแต่หัวค่ำด้วย 5. บางครั้งการได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อื่นก็ช่วยเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้น เราจะมองเห็นทางออกได้ง่ายขึ้น หากเป็นบุคคลใกล้ชิดหรือคนในครอบครัวเท่ากับเป็นการเปิดใจให้ผูกพันกันมากขึ้น 6. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เท่าที่จะทำได้อย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง วันเว้นวันก็ยังดี 7. หันหน้าเข้าหาวัดวา หรือศาสนาที่ตนนับถือเพื่อศึกษาหาความสงบและปัญญา 8. เข้าร่วมกิจกรรมในการช่วยเหลือผู้อื่น การได้นำตัวเองไปอยู่ในหมู่ผู้ที่มีปัญหาอาจได้แรงบันดาลใจการหาทางออกมากขึ้น หรือได้คิดว่าเรายังโชคดีกว่าผู้อื่นอยู่มาก 9. ทุกวันก่อนนอน ทบทวนว่าเกิดเรื่องอะไรดี ๆ ขึ้นในชีวิตบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่าไรก็ตาม เพื่อเป็นการสร้างสมกำลังใจ ทำให้มีความหวังในชีวิตมากขึ้น 10. เมื่อเผชิญกับปัญหาก็แก้ไปทีละเปลาะ ทำทีละขั้น…
-
ระวัง…โรคปอดบวมในช่วงที่อากาศเย็นชื้น
ระวัง…โรคปอดบวมในช่วงที่อากาศเย็นชื้น ระยะปลายฝนต้นหนาวที่ยังมีสายฝนชุ่มฉ่ำ กับอากาศที่เริ่ม ๆ จะเย็นลงนั้น ผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ เด็ก คนชรา หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่ ควรรักษาและระมัดระวังสุขภาพให้มาก เพราะช่วงเวลาที่อากาศชื้นและเย็นเช่นนั้นอาจมีโอกาสเสี่ยงให้คุณติดเชื้อโรคปอดบวมและโรคในระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ ได้ง่าย โดยโรคปอดบวมนี้มีความอันตรายร้ายแรงมาก และยังเป็นโรคที่คร่าชีวิตเด็กเล็กเป็นอันดับหนึ่งของโลกมากว่าห้าปี ซึ่งเกือบทั้งหมดเกิดจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส ซึ่งปัจจัยความรุนแรงของโรคขึ้นอยู่กับ – อาการของโรคว่าเป็นแบบเฉียบพลัน หรือค่อยเป็นค่อยไป – อายุของผู้ป่วย หากเป็นเด็กหรือคนชราและมีร่างกายอ่อนแอก็อาจเป็นอันตรายรุนแรงขึ้น – ชนิดของเชื้อ หากพบว่าเป็นเชื้อนิวโมคอกคัสก็จะยิ่งมีความรุนแรง – สภาวะของผู้ป่วย หากเป็นโรคเรื้อรังหรือมีความอ่อนแอก็อาจอันตรายถึงชีวิตได้ โดยอาการในเบื้องต้นของผู้ป่วยนั้นจะมีไข้สูง หอบ ไอลึก หายใจเร็วและลำบาก หากเป็นเด็กเล็กยิ่งต้องดูแลใกล้ชิด ด้วยการเปิดเสื้อสังเกตหน้าอกว่าหายใจแรงจนชายโครงบุ๋มหรือหายใจมีเสียงวี๊ดหรือยัง ถ้าพบว่ามีอาการดังกล่าวรีบพาไปพบแพทย์โดยด่วน ในด้านของการรักษาโรคปอดบวมนั้นขึ้นอยู่ชนิดของเชื้อโรค หากเกิดจากเชื้อไวรัสจะรักษาตามอาการจนกว่าร่างกายจะกำจัดเชื้อได้เอง และต้องระมัดระวังมิให้ไปติดเชื้อโรคอื่นเพราะช่วงนี้ร่างกายจะอ่อนแอ แต่หากเป็นเชื้อนิวโมคอกคัสที่อยู่ในโพรงจมูกและลำคอ ที่เป็นสาเหตุของโรคไซนัสอักเสบ หูน้ำหนวก หากเชื้อนี้เล็ดลอดเข้าสู่กระแสเลือด จะทำให้ตับวาย ไตวาย หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้ เกิดการชัก เกร็ง สมองทำงานผิดปกติ ทำให้ปอดหรือหัวใจหยุดทำงานจนกระทั่งเสียชีวิตได้ หากในครอบครัวมีเด็กเล็กหรือคนที่อ่อนแอกำลังไม่สบาย ควรดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิด หากพบสิ่งผิดปกติควรพาไปพบแพทย์โดยด่วน โรคปอดบวมนั้นระยะแรกหรืออาหารไม่รุนแรงแพทย์อาจสั่งยาให้แล้วกลับมาพักผ่อนที่บ้าน และนัดไปดูอาการภายหลัง…
-
ผักสด ผลไม้สด .. ไม่ใช่ทุกคนจะทานได้
ผักสด ผลไม้สด .. ไม่ใช่ทุกคนจะทานได้ ผักสดผลไม้สดนั้นเป็นอาหารที่ทำให้ผู้บริโภคได้รับสารอาหารที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาล ที่สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานและให้รสหวาน เกลือแร่และวิตามินที่เสริมสร้างความสมบูรณ์ของอวัยวะต่าง ๆ เส้นใยอาหารที่ช่วยให้การขับถ่ายเป็นไปได้ด้วย และลดการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ ลดเบาหวานได้ด้วย และพืชบางชนิดให้ไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วยเช่นกัน ฯลฯ การบริโภคผักสดและผลไม้สด จึงเป็นเรื่องที่ควรแนะนำและส่งเสริม แต่ทุกอย่างในโลกก็ต้องมีสองด้านเสมอ แม้แต่ในผักสด ผลไม้สดก็ตาม การบริโภคสด ๆ โดยไม่ผ่านความร้อนอาจได้รับอันตรายบางประการได้ เช่น ในผักอาจมีไข่พยาธิหรือพยาธิเจือปนอยู่ หากล้างไม่สะอาดอาจทำให้เกิดโรคท้องร่วงได้ รวมไปถึงผักผลไม้บางชนิดอาจมีสารเคมีหรือยาฆ่าแมลงตกค้างอยู่ อาจก่อให้เกิดสารพิษสะสมในร่างกาย อีกทั้งผู้ที่ป่วยด้วยบางโรคจำเป็นต้องระวังผักสดผลไม้สดบางชนิดด้วย เช่น ผู้ที่ป่วยเป็นโรคไตจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่มีโปตัสเซี่ยมสูง ๆ เช่น กล้วย หรือส้ม เป็นต้น รวมไปถึงคนไข้อีกบางพวกที่การทานผักสดผลไม้สด เป็นเรื่องต้องห้ามที่สุด ก็คือ คนไข้ที่ได้รับเคมีบำบัดเพื่อรักษาโรคมะเร็ง เพราะคนไข้จำพวกนี้ภายหลังจากที่ได้รับยาแล้วจะทำให้ปริมาณเม็ดเลือดขาว ซึ่งทำหน้าที่ในการกำจัดเชื้อโรคต่ำลง ผู้ป่วยจึงอ่อนแอเกิดโรคติดเชื้อแทรกซ้อนได้ง่าย หากต้องการผักผลไม้ ต้องเป็นผ่านการทำให้สุกด้วยความร้อนแล้วเท่านั้น อีกทั้งผลไม้บางชนิดที่ต้องรับประทานทั้งเปลือกก็ห้ามรับประทานด้วย หากต้องการทานต้องปอกเปลือกทิ้งไปแล้วให้ทานในทันทีห้ามปล่อยทิ้งไว้ แม้การทานผักสดผลไม้สดจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ผู้ป่วยบางโรคก็เป็นเรื่องต้องห้ามเช่นกัน ดังนั้นหากท่านเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนดีกว่านะคะ
-
เส้นทาง….แห่งชีวิตอันเป็นสุข
เส้นทาง….แห่งชีวิตอันเป็นสุข ในชีวิตคนเรานั้นสามารถมีความสุขได้ในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถสรุปออกมาได้ดังนี้ 1. มีความสุขที่ชีวิตมั่งคงและมีหลักประกัน ได้แก่การมีบ้านและอาชีพที่มั่นคง เป็นของตนเอง มีอาหารการกินสมบูรณ์ มีเงินทองใช้สอย 2. มีสุขภาพกายและจิตใจที่ดี 3. มีครอบครัวที่อบอุ่น ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน ซื่อสัตย์และช่วยกันทำมาหากิน มีเวลาให้กัน 4. มีการเรียนรู้ร่วมกันในชุมชน มีผู้นำที่เป็นตัวอย่างที่ดี มีการช่วยเหลือและสามัคคีกันในชุมชน 5. มีสิ่งแวดล้อมที่ดี ดิน น้ำ ป่าไม้สมบูรณ์ อากาศไม่เป็นพิษ มีถนน น้ำประปา ไฟฟ้า สิ่งแวดล้อมน่าอยู่ 6. มีอิสรภาพ ไม่เป็นหนี้ ไม่เดือดร้อนใคร ไม่ถูกครอบงำ สามารถทำทุกอย่างได้ดังใจ 7. มีความภาคภูมิใจ ประสบความสำเร็จ รุ่งเรือง เป็นไอดอลให้คนอื่น ได้ถ่ายทอดความรู้ที่มีประโยชน์ต่อผู้อื่น 8. มีธรรมะในการใช้ชีวิตร่วมกัน ได้มีโอกาสทำบุญ ทำทาน เข้าวัดฟังธรรม พอเพียงกับสิ่งที่มีอยู่ และอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข คนทุกคนมีอิสรภาพในการเลือกสร้างความสุขให้กับตนเองและผู้คนรอบข้าง แต่ไม่ว่าจะเป็นความสุขในข้อใดก็ควรเป็นความสุขที่เกิดจากภายใน ซึ่งมีความยั่งยืนกว่า เป็นความสุขที่แท้จริง การมีความสุขคือความรับผิดชอบของคนทุกคน เริ่มง่าย…