Author: pure
-
รักษาสุขภาพป้องกันมะเร็งไว้ก่อน
รักษาสุขภาพป้องกันมะเร็งไว้ก่อน สาเหตุการตายของคนไทยนั้นเกิดจากโรคมะเร็งเป็นอันดับหนึ่งมานานหลายปีแล้ว ปีหนึ่ง ๆ กว่าสามแสนรายเลยทีเดียว มะเร็งนั้นก็รู้กันอยู่แล้วว่ารักษาได้ยาก บางรายก็รักษาไม่หาย อีกทั้งยังมีหลายปัจจัยในการก่อโรคที่ระบุให้แน่ชัดลงไปไม่ได้อีกด้วย แต่การดูแลสุขภาพตัวเองไว้อย่างเหมาะสม เชื่อได้ว่าจะป้องกันการเกิดมะเร็งได้ ซึ่งการดูแลตัวเองดังกล่าวนั้นได้แก่ 1. เน้นทานอาหารที่สะอาด ปลอดภัย มีไขมันน้อย และมีเส้นใยอาหารสูง ๆ อย่างผักผลไม้ทั้งหลาย ที่ยังให้วิตามินแร่ธาตุกับร่างกาย ช่วยต้านทานอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งได้ ไม่ควรทานอาหารปิ้งย่างไหม้เครียด ของหมักดองหรือแปรรูป ตลอดจนอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อรา และอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ อย่างปลาร้า ปลาจ่อมด้วยนะคะ 2. ทำให้การออกกำลังกายเป็นกิจวัตรของคุณ และควบคุมน้ำหนักตัวให้พอดีกับส่วนสูง เพื่อให้ร่างกายมีความแข็งแรงกระฉับกระเฉง และเสริมภูมิต้านทานให้มีประสิทธิภาพ 3. เลิกสูบบุหรี่ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอด และงดดื่มสุราด้วยเพราะเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งในช่องปาก มะเร็งกล่องเสียง คอหอย มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ และมะเร็งเต้านมด้วย 4. หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดจัดจ้าในช่วงเวลาตั้งแต่ 10.00-16.00 น. แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่าลืมทาครีมกันแดดก่อนทุกครั้งด้วยค่ะ 5. ไม่สำส่อนในกามารมณ์ และมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสเอชพีวีอันเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกด้วย 6.…
-
สอนวัยรุ่นใช้ถุงยางอนามัย ป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์
สอนวัยรุ่นใช้ถุงยางอนามัย ป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ในปัจจุบันนี้การมีแฟนตั้งแต่วัยเรียนเห็นจะเป็นเรื่องที่ยอมรับการได้มากขึ้น เพียงแต่ก็ยังต้องให้คบกันอยู่ในขอบเขต รู้จักรักนวลสงวนตัวไว้บาง อย่าเพิ่งไปมีเพศสัมพันธ์กันก่อนเวลา แต่เพราะความรักในวัยรุ่นสมัยนี้ขาดความยับยั้งชั่งใจกันมาก กับทั้งยังมีโอกาสในการมีเพศสัมพันธ์กันได้ง่ายขึ้น หากไม่ต้องการให้ลูก ๆ ของท่านต้องตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร รวมไปถึงการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ ผู้ปกครองจึงควรสอนบุตรหลานให้รู้จักการป้องกันตัวไว้ก่อนดีกว่า ต้องยอมรับว่าการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นมีเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ซึ่งส่งผลกระทบมากทั้งต่อตัวเด็กเองรวมไปถึงทารกด้วย เพราะความไม่พร้อมในหลายด้าน และหากต้องติดโรคเอดส์ขึ้นมาอีก คุณภาพชีวิตก็ยิ่งย่ำแย่ไปกันใหญ่ ยังไม่นับรวมถึงว่าการมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย ๆ นั้นทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปากมดลูกจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวีได้ ดังนั้นแม้การแนะนำเรื่องการใช้ถุงยางอนามัยให้กับเด็กวัยรุ่น อาจจะดูเหมือนเป็นการชี้โพรงให้กระรอก แต่นั่นก็ยังดีกว่าวัวหายแล้วล้อมคอกเป็นแน่ ความรู้ทางด้านเพศศึกษาเหล่านี้จึงควรได้รับการถ่ายทอดจากพ่อแม่ และคุณครูที่ควรจะสอนให้เด็กได้รู้จักว่า.. – เพศสัมพันธ์มีได้เมื่อถึงวัยอันควร ไม่ควรเข้าไปอยู่ในที่ลับตากับเพศตรงข้าม งดเง้นการเที่ยวเตร่ในที่ที่มีขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และด้วยความเป็นผู้หญิงต้องรู้จักระแวดระวังภัยที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองด้วย – Safe Sex ทุกครั้ง การมีเพศที่ปลอดภัยต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง – อย่าไปยึดถือว่าการยอมมีเพศสัมพันธ์คือการแสดงความรัก ความรักที่แท้จริงคือการให้เกียรติ ให้ความปรารถนาดี ดูแลกันและกัน ผู้ชายควรให้เกียรติแฟนของตัวเองเหมือนให้เกียรติแม่และพี่สาวน้องสาวของตัวเองด้วย – เพศสัมพันธ์คือความรับผิดชอบร่วมกันทั้งสองฝ่าย จึงควรรับผิดชอบร่วมการในการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยด้วยการใช้ทุกอย่างอนามัยทุกครั้ง และตระหนักร่วมกันทั้งสองฝ่ายด้วย – แม้จะยังไม่แต่งงาน แต่การคบหากันควรมีความซื่อสัตย์ ไม่สะเปะสะปะในกาม หรือนอกใจไปมีคนอื่นอีก
-
ใส่ใจกับอาหาร ต้านมะเร็งได้ผลนะ
ใส่ใจกับอาหาร ต้านมะเร็งได้ผลนะ ในปัจจุบันมีแนวโน้มการป่วยและตายด้วยโรคมะเร็งสูงขึ้นแบบยั้งไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ ในจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดนั้นกว่าครึ่งคือผู้สูงอายุ ที่เซลล์มะเร็งค่อย ๆ ก่อตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และกว่าจะพบว่าตนเองเป็นมะเร็งก็มักจะอยู่ในระยะลุมลามที่ยากจะรักษาให้หายขาดได้แล้ว ทั้งที่โรคมะเร็งนั้นหากตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มแรกมีโอกาสที่จะรักษาให้หายได้ถึงร้อย 80 เลยทีเดียว ดังนั้นเราทุกคนจึงควรตรวจสุขภาพประจำปีไว้เพื่อหาความผิดปกติของร่างกาย เพื่อป้องกันโรคร้ายไว้แต่เนิ่น ๆ รวมไปถึงการใส่ใจเลือกอาหารการกินก็สามารถต้านมะเร็งได้อีกทางหนึ่งด้วยนะ – ทานอาหารที่มีเส้นใยอาหารให้มากเข้าไว้ ไม่ว่าจะเป็นผักสด ผลไม้สดต่าง ๆ รวมไปถึงข้าวกล้อง ข้าวโพด ธัญพืช โฮลเกรน ฯลฯ เหล่านี้ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ – ผักและผลไม้สีเขียว มีเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอสูง ป้องกันมะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกล่องเสียงและมะเร็งปอดได้ รวมไปถึงผักและผลไม้รสเปรี้ยวที่มีวิตามินซีมาก ๆ ช่วยป้องกันมะเร็งหลอดอาหารและกระเพาะอาหารได้อีกทางหนึ่ง – ทานผักตระกูลกะหล่ำให้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น คะน้า กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี หัวผักกาด เหล่านี้ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งลำไส้ส่วนปลาย มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งในอวัยวะทางเดินหายใจทั้งหมด นอกจากอาหารที่ควรทานแล้วยังมีอาหารบางประเภทที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันมะเร็งด้วยนะ – อาหารที่ขึ้นรา ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งตับ – อาหารที่มีไขมันสูง เพราะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งต่อมลูกหมาก…
-
ไม่อยากไอคิวหล่น…ต้องกินอาหารเช้า
ไม่อยากไอคิวหล่น…ต้องกินอาหารเช้า นับเป็นความเข้าใจผิดของพ่อแม่จำนวนมากที่ไม่เห็นความสำคัญของอาหารเช้าเลย นอกจากตัวเองจะไม่ทานแล้ว ยังไม่ยอมจัดหาให้ลูก ๆ ได้ทานเต็มมื้อด้วย ผลเสียของการไม่ทานอาหารเช้านั่นคือทำให้ร่างกายขาดพลังงาน และสมองจะตื้อ ไม่ปลอดโปร่ง การเรียนรู้และความจำก็ไม่ดี เพราะสมองของคนเรานั้นต้องการใช้กลูโคสเป็นพลังงาน ซึ่งได้ถูกเผาผลาญไปจนเกือบหมดแล้วในระหว่างการนอนหลับ หากตื่นเช้ามาไม่ทานข้าวเช้า ก็จะทำให้สมองไม่สดใสดังกล่าวมาแล้ว สารอาหารที่จำเป็นสำหรับมื้อเช้าก็คือคาร์โบไฮเดรต ได้แก่ ข้าว แป้ง น้ำตาล เพราะจะเป็นการส่งกลูโคสกลับเข้าสู่สมอง ทำให้สมองตื่นตัวทำงานได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังให้พลังงานกับร่างกายในการเริ่มเช้าวันใหม่ได้ และหากคุณไม่ยอมทานมื้อเช้าแต่ไปรวบยอดเอาในมื้อเที่ยงก็ไม่ทันอยู่ดี เพราะเวลาที่ร่างกายต้องการพลังงานส่วนนั้นได้ผ่านไปแล้ว หากติดนิสัยไม่เคยทานอาหารเช้าหรือไม่ทานอาหารเช้าไปนาน ๆ จะสังเกตได้ว่าความจำจะเริ่มเสื่อม สมองไม่ค่อยสดใสเท่าไรนัก และอาหารของสมองที่สำคัญมากก็ได้แก่ กรดโฟลิค วิตามินบีหก วิตามินบีสิบสอง ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งดูดซึมวิตามินบีสิบสองได้น้อยลง ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ผู้ที่มีอายุเกิน 50 ปีขึ้นไป ทานอาหารที่มีกรดโฟลิคให้มากแทน ซึ่งพบได้มากในธัญพืชไม่ขัดสี ผักใบสีเขียวเข้ม น้ำส้มค้น และถั่ว ดังนั้นหากไม่อยากสมองเสื่อมหรือไอคิวหล่นร่วงตั้งแต่อายุน้อย ๆ ควรทานอาหารเช้าที่มีประโยชน์ทุกวันนะคะ จะได้มีสมาธิเรียนหนังสือและมีแรงทำงาน ไม่ผิดพลาดและไม่หิวโซจนถึงมื้อเที่ยงอีกด้วยค่ะ
-
สารอาหารที่ช่วยคุณเผาผลาญพลังงานได้ดี
สารอาหารที่ช่วยคุณเผาผลาญพลังงานได้ดี การเผาผลาญอาหารนั้นเป็นวิธีที่ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานและสารอาหารจากร่างกาย ถ้าอัตราการเผาผลาญมีน้อยก็จะทำให้เกิดการสะสมพลังงานหรือไขมันไว้ในร่างกายมาก น้ำหนักจึงขึ้นหรืออ้วนขึ้นนั่นเอง โดยแต่ละคนจะมีประสิทธิภาพในการเผาผลาญพลังงานได้ต่างกันไป สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักนั้น ต้องจำไว้ว่าหลักการก็คือคุณต้องนำเอาพลังงานเข้าร่างกายให้น้อยกว่าที่ร่างกายเผาผลาญได้ เพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญได้หมดไม่เหลือเก็บไว้เป็นส่วนเกินตามร่างกาย และหากคุณทานน้อยกว่าพลังงานที่ร่างกายต้องการ ร่างกายเราจะไปดึงเอาไขมันเก่าที่เคยเก็บไว้มาใช้เป็นพลังงานด้วย สัดส่วนของคุณจึงลดลงไปพร้อมกับน้ำหนักตัว เคล็ดลับง่าย ๆ สำหรับคนที่ลดน้ำหนักก็คือ ให้ทานอาหารที่อยากทานในมื้อเช้า หรือกินให้หนักหน่อยในมือเช้านั่นเอง การกินอาหารเช้าช่วยให้เราไม่หิวโหยในมื้อเที่ยงมากเกินไป และยังทำให้ร่างกายมีอัตราการเผาผลาญอาหารที่ดีไปตลอดทั้งวัน การงดอาหารเช้าทำให้คุณตบะแตก และหิวก่อนมื้อเที่ยงจนไปคว้าเอาขนมหรือน้ำหวานมาทานก่อนมื้อเที่ยงอีก ไม่ควรอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งเพียงแต่ให้ทานให้ถูกสัดส่วน และเลือกทานอาหารที่มีไขมันต่ำ หรือเลี่ยงไขมันรวมไปถึงน้ำตาล ของหวานต่าง ๆ ไปเลยก็ได้ ทานผักและผลไม้ที่ไม่หวานให้มาก เพราะมีวิตามินและแร่ธาตุช่วยให้ร่างกายเผาผลาญได้ดี ซึ่งสารอาหารที่ช่วยเผาผลาญในร่างกายคุณได้นั้น ได้แก่ – แคลเซียม ช่วยเร่งเอนไซม์หลายชนิดในกระบวนการเผาผลาญอาหาร ได้แก่ ปลาเล็กปลาน้อย ผักใบเขียว กุ้งแห้ง กะปิ เต้าหู้ งา ถั่วเหลือง นมพร่องมันเนย ใบโหระพา มะเขือพวง ผักใบเขียวต่าง ๆ – ฟอสฟอรัส ช่วยเร่งการทำงานของเอนไซม์ต่าง ๆ ในการเผาผลาญ พบได้มากใน ผักใบเขียวทุกชนิด เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง…
-
เข้าใจให้ลึกซึ้ง…ถึงหัวใจวัยรุ่น
เข้าใจให้ลึกซึ้ง…ถึงหัวใจวัยรุ่น พ่อแม่หลายคู่หรือผู้ปกครองหลายท่านอาจพบว่า เทคโนโลยีสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค โทรศัพท์มือถือ โปรแกรมแชทต่าง ๆ แย่งลูกของคุณไป เขาไม่เชื่อฟังคุณ ก้าวร้าวกับคุณ ขาดความรับผิดชอบในการเรียนและอื่น ๆ ฯลฯ ไม่เหมือนตอนที่เขายังเด็ก ๆ ที่ติดคุณแจ กลับมาลองมองดูตัวเองก่อนนะคะ ว่าคุณเข้าใจวัยรุ่นขนาดได้ แล้วทราบหรือยังว่าวัยรุ่นต้องการอะไร – วัยรุ่นต้องการความรัก ไม่ใช่การตำหนิติเตียน การเปรียบเทียบ หรือเอาความฝันของคุณไปยัดเยียดให้เป็นความฝันของเขา คุณควรชื่นชมในสิ่งที่เขาทำได้ มองเห็นข้อดีของเขาให้มาก เขาจะมองเห็นคุณค่าของตัวเอง – หากอยากให้วัยรุ่นเปิดใจ คุณต้องรับฟัง หากเขาเคยทำผิดพลาดแล้วคุณตวาด ตะคอก หรือดุด่า เขาจะไม่ยอมเปิดใจกับคุณอีกต่อไป แล้วจะยิ่งโกหก ก้าวร้าวและเกลียดชังคุณไปเลย – วัยรุ่นต้องการเวลาจากพ่อแม่ หากคุณให้เวลาแต่กับงานอย่างเดียว ก็อย่าหาว่าทำไมลูกไม่เชื่อฟังคุณล่ะ ในเมื่อคุณไม่เคยมีเวลาฟัง หรือทำกิจกรรมกับเขาเลย จำไว้เถอะว่าต่อให้คุณตายในหน้าที่ เจ้านายจ้างคนใหม่แทนคุณได้ แต่หากคุณสูญเสียครอบครัว คุณจะหาอะไรมาทดแทนไม่ได้เลย – เขาต้องการการให้เกียรติจากคุณด้วย ด้วยการเปิดโอกาสให้เขาได้แสดงความคิดเห็น ไม่นำตัวเขาไปเปรียบเทียบกับคนอื่น รวมไปถึงให้การสนับสนุนเขาให้ก้าวไปสู่อนาคตตามสิ่งที่เขาถนัด และไม่ยัดเยียดความฝันของคุณให้ลูกไปทำแทน – คุณจำเป็นต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูก หากคุณดีแต่สอน…
-
ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเอดส์ รวมทั้งการถูกข่มขืน
ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเอดส์ รวมทั้งการถูกข่มขืน สถานการ์ของโรคเอสด์ในโลกขณะนี้นั้นมีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้วสามสิบกว่าล้านคน และเสียชีวิตไปแล้วเกือบสองล้านคน แม้ในแต่ประเทศไทยเอง ก็มีผู้ป่วยโรคเอดส์ถึงกว่าสี่แสนคนแล้วด้วย ทั้งหมดนี้ติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ถึงร้อยละ 84 ร้อยละ 4 เกิดจากการใช้ยาเสพติดชนิดฉีด และร้อยละ 3.6 เกิดจากการติดเชื้อจากแม่ลูกสู่ ในแต่ละปีประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่นับหมื่นคน และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ การป้องกันตนเองจากเชื้อเอดส์ที่ดีที่สุดนั้นก็คงไม่พ้นการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ แต่แม้จะใช้ทุกครั้ง ก็ยังพบว่ามีผู้ติดเชื้อเอดส์จากสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเพิ่มขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการถูกข่มขืน การโดนมอมยา หรือเมาจนไม่ได้สติ ฯลฯ ดังนั้นแล้วเราจึงควรหาทางป้องกันตนเองจากเหตุไม่คาดคิดเหล่านี้ไว้ก่อนดีกว่า ด้วยการนำเอาข้อควรระวังเหล่านี้ไปใช้ค่ะ – ไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลม หลีกเลี่ยงการอยู่ตามลำพังกับเพศตรงข้ามในที่ลับตาคน เพราะอะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้เสมอ (แม้แต่เพศเดียวกันก็ตามที) – การดื่มเหล้า หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อาจทำให้ขาดสติ เสี่ยงต่อการถูกมอมยา และการล่อลวงให้ใช้ยาเสพติด ฯลฯ เหล่านี้เพิ่มความเสี่ยงในการมีเพศสัมพันธ์ไม่พึงประสงค์ และขาดสติในการมีเพศสัมพันธ์ด้วย – แม้แต่การไปเที่ยวในสถานเริงรมย์ที่มีบรรยากาศเป็นใจ ก็อาจเป็นชนวนยั่วยุให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์ได้ ยิ่งหากดื่มเหล้าด้วย ความเสี่ยงก็ยิ่งสูง – สำหรับสื่อยั่วยุอารมณ์ทางเพศ หากดูคนเดียวแล้วบรรเทาความต้องการของตัวเองได้ก็โอเค แต่หากคุณดูกับคนอื่น มันก็เสี่ยงมากอยู่เหมือนกันที่อารมณ์จะเตลิดจนยับยั้งไม่อยู่ – สำหรับสาว ๆ…
-
อันตรายจากพลุและดอกไม้ไฟ
อันตรายจากพลุและดอกไม้ไฟ อย่าว่าแต่ลอยกระทงเลยนะคะ เดี๋ยวนี้ไม่ว่าเทศกาลไหนของประเทศไทย ก็นำเอา พลุ ดอกไม้ไฟ ประทัด มาเล่นกันแทบทุกเทศกาลแล้ว ยิ่งโดยเฉพาะเด็ก ๆ จะชื่นชอบมากกับสีและเสียงที่น่าสนุกสนาน แต่ในความสวยก็มาพร้อมอันตรายด้วย เพราะในพลุ ดอกไม้ไฟเหล่านี้มีส่วนประกอบของวัตถุระเบิดที่ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ และตลอดหลายปีที่ผ่านทุกเทศกาลเราก็มักได้รับข่าวอันตรายทีเกิดจากพลุและดอกไม้ไฟอยู่ไม่น้อยเลย อวัยวะส่วนที่ได้รับบาดเจ็บบ่อย ๆ ได้แก่ มือ ดวงตา ใบหน้า และลำตัว บางรายร้ายแรงถึงกับเสียชีวิตเลยก็มี ดังนั้นเพื่อป้องกันมิให้ลูกๆ หลาน ๆ ของเราเกิดอันตราย ขอฝากพ่อ ๆ แม่ ๆ ดูแลบุตรหลานดังต่อไปนี้ค่ะ 1. การเล่นพลุและดอกไม้ไฟ ควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากผู้ใหญ่ และให้อ่านวิธีปฏิบัติตามคำแนะนำที่ติดไว้บนฉลากอย่างเคร่งครัด และให้เล่นอย่างระมัดระวัง 2. คำนึงถึงอันตรายต่อผู้อื่นด้วย เช่น การโยนดอกไม้ไฟ ปะทัดใส่ผู้อื่นหรือฝูงชน อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ และระยะในการดูพลุที่ปลอดภัยคือตั้งแต่ 10 เมตรขึ้นไป หากดอกไม้ไฟเกิดจุดแล้วดับไปก่อนระเบิดอย่าเพิ่งจุดทันที ควรปล่อยทิ้งไว้ให้เย็นอย่างน้อยห้านาทีก่อน ทุกครั้งที่เล่นควรเตรียมน้ำไว้ใกล้มือทุกครั้ง จะได้ดับไฟทันหากเกิดอุบัติเหตุ ไม่ควรจุดพลุหรือดอกไม้ไฟบริเวณใกล้เคียงอาคารบ้านเรือน นอกจากอาจทำให้เกิดอัคคีภัยแล้วยังผิดกฎหมายด้วย 3. อย่าเก็บพลุหรือดอกไม้ไฟไว้ในกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง…
-
ผลเสียของการอดนอน ทำลายสุขภาพมากกว่าที่คุณคิด
ผลเสียของการอดนอน ทำลายสุขภาพมากกว่าที่คุณคิด ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะค่ะ ว่าการอดนอนทำให้คุณตายเร็วขึ้นได้เลยนะคะ! เพราะว่าการอดนอนจะทำให้ร่างกายอ่อนล้า และเมื่อพักผ่อนไม่พอเพียงก็จะทำให้สุขภาพร่างกายแปรปรวนไปด้วยทั้งระบบ รู้หรือไม่ว่า… อดนอนทำให้อ้วน การที่เราอดนอนมาก ๆ จะทำให้ฮอร์โมนที่ควบคุมการเติบโต และควบคุมสัดส่วนของไขมันต่อกล้ามเนื้อในร่างกายนั้นหลั่งออกมาน้อยลง ทำให้รู้สึกอยากกินอาหารมากขึ้น การอดนอนทำให้มีประสิทธิภาพการทำงานลดลง แล้วยังทำให้ระดับการเผาผลาญของร่างกายลดลง นำไปสู่การมีไขมันสะสมในร่างกายจนมีน้ำหนักเกิน รวมไปถึงยังส่งผลต่อฮอร์โมนเลปตินที่เป็นสารสื่อประสาทด้วยว่าควรจะอิ่มได้เร็วหรือช้าเท่าใดตามความต้องการอาหารของร่างกาย หากเลปตินลดลงเพราะอดนอนจทำให้รู้สึกอยากทานอาหารมากขึ้น แม้จะได้กินอาหารจนเพียงพอแล้วก็ตาม รู้หรือไม่ว่า.. อดนอนทำให้เป็นมะเร็ง การอดนอนทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน จึงเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งอย่างสูง ดังนั้นเราควรนอนให้พอเพียงในเวลากลางคืนตามเวลาปกติและความปิดไฟนอนอีกด้วย รู้หรือไม่ว่า… อดนอนทำให้โง่ลง การนอนน้อยลงทำให้ประสิทธิภาพในการจดจำในสมองลดลง แล้วยังทำให้ร่างกายเจ็บป่วยง่าย การอดนอนส่งผลเสียต่อเนื่องไปถึงระบบหัวใจ ระบบการไหลเวียนโลหิต รวมทั้งกระเพาะอาหารและลำไส้ ผู้ที่อดนอนมาก ๆ จะมีหน้าตาซีดเซียว ดูไม่มีน้ำมีนวล ป่วยง่ายหายก็ช้า เพราะการอดนอนจะส่งผลต่อเม็ดเลือดขาวและกลไกการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันของร่างกายนั่นเองค่ะ คนเรานั้นหากต้องการมีสุขภาพดี ควรมีเวลานอนแต่ละเป็นเวลา 7-8 ชั่วโมง และเข้านอนให้เป็นเวลา ตื่นให้เป็นเวลาทุกวัน ช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานคงที่ และจะมีแต่ผลงานที่ดีขึ้นเพราะสมองแจ่มใส บริหารเวลาในชีวิตและครอบครัวได้อย่างดี อีกทั้งการนอนให้เพียงพอยังทำให้คุณอยู่ห่างไกลโรงพยาบาลมากกว่าเดิมด้วยค่ะ
-
เทคนิคการผ่อนคลายความเครียดแบบง่าย ๆ
เทคนิคการผ่อนคลายความเครียดแบบง่าย ๆ เดี๋ยวนี้การใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบันสร้างความเครียดและความวิตกกังวลให้เราแทบจะทุกช่วงเวลาของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่วัยเด็ก วัยเรียน วัยรุ่น วัยทำงาน มีครอบครัว จนถึงวัยชรา เรามีความเครียดกันตั้งแต่ระดับเล็ก ๆ จนถึงระดับใหญ่ ๆ ที่สร้างผลกระทบต่อร่างกาย ความเครียดไม่ได้สร้างปัญหาทางจิตใจเท่านั้นแต่ยังสร้างปัญหาต่อสุขภาพอีกด้วย เพราะเมื่อเครียดก็มักนอนไม่หลับ พาลทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานต่ำ ป่วยง่ายหายยาก ขาดสมาธิ และพัฒนาไปสู่โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือโรคหลอดเลือดหัวใจ จนทำให้เสียชีวิตได้ ความเครียดจึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว หากรู้ตัวว่าเริ่มเครียดขึ้นมาแล้ว ซึ่งจะสามารถเห็นได้จากอาการดังนี้ ไม่ว่าจะเป็น อาการวิงเวียนศีรษะ มึนงง เบื่ออาหาร หายใจถี่ แรง เร็ว เหงื่อออก กล้ามเนื้อเกร็ง นอนไม่หลับ มือเท้าเย็น หน้าซีด อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ฯลฯ หากมิได้เกิดจากโรคอื่น ๆ แล้วก็ให้ลองเทคนิคการผ่อนคลายความเครียดดังต่อไปนี้ดูนะคะ เทคนิคแรก วิธีผ่อนคลายกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็ว โดยการนอนราบลงบนพื้นหรือบนที่นอน นอนเหยียดตัวตรง เท้าทั้งสองข้างวางห่างกันเล็กน้อย แขนแนบข้างลำตัว กำมือให้แน่น เกร็งไหล่ ยกไหล่ขึ้น เกร็งไว้ 1…