Author: pure

  • โรคมะเร็งและแนวทางการรักษา

    โรคมะเร็งและแนวทางการรักษา

    โรคมะเร็งและแนวทางการรักษา โรคมะเร็งในปัจจุบันนี้ พบได้มากขึ้นไปเรื่อย ๆ ทั้งในเพศชายและเพศหญิง ยิ่งโดยเฉพาะเพสหญิงด้วยแล้ว ทั้งวิถีชีวิตและการกินอาหรก็เลียนแบบไปทางตะวันตกมากขึ้น โรคมะเร็งที่พบมากในผู้หญิงจึงเปลี่ยนแปลงไปตามแนวทางผู้หญิงตะวันตกมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งอาการผิดปกติสำหรับผู้ที่เริ่มต้นเป็นมะเร็งนั้นจะได้แก่อาการอ่อนเพลีย ร่วมกับอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลงไปประมาณร้อยละ 10 ของร่างกายภายในหกเดือน (แต่ถ้าขึ้น ๆ ลง ๆ ถือว่าปกติ) แต่อาการเหล่านี้ไม่ถือว่าเป็นโรคมะเร็งอย่างเดียว อาจเกี่ยวข้องกับโรคอื่นได้ด้วย การรักษามะเร็งนั้นมีการรักษาร่วมกันหลายวิธี ทั้งการผ่าตัด การรักษาด้วยเคมี การฉายแสง ในส่วนของการผ่าตัดนั้นใช้ได้กับมะเร็งแทบทุกชนิดแต่ต้องดูความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นระยะของโรค หรืออวัยวะนั้นผ่าตัดได้หรือไม่ ส่วนมะเร็งที่เลือกผ่าตัดเป็นอันดับแรก ๆ ก็คือ มะเร็งตับ มะเร็งทางเดินอาหาร มะเร็งช่องปากระยะต้น มะเร็งเต้านม มดลูก ต่อมลูกหมากระยะต้น เป็นต้น สำหรับวิธีเคมีบำบัด จะใช้เพื่อลดการกระจายตัวของโรคไปที่อื่นหลังการผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่ก็มีมะเร็งบางชนิดที่ทำได้แค่การให้เคมีบำบัดอย่างเดียว เช่น มะเร็งเม็ดเลือด และบางครั้งก็มีการให้ยาเคมีบำบัด ร่วมกับการฉายรังสี เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น มะเร็งศีรษะและลำคอ ในส่วนของการให้ยาเคมีบำบัดส่วนใหญ่แล้วจะเป็นยาฉีดที่ให้ทางหลอดเลือดดำ หรืออาจให้ยาเคมีบำบัดทางอุปกรณ์พิเศษที่ต่อเข้าสู่เส้นเลือดดำใหญ่ได้โดยตรง เนื่องจากการให้ยาเคมีบำบัดต้องให้หลายครั้ง ซึ่งต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ เพราะอาจมีอาการหลังจากให้ยาได้ ไม่ว่าจะเป็น คลื่นไส้…

  • ใบย่านาง.. พืชพื้นบ้านมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

    ใบย่านาง.. พืชพื้นบ้านมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

    ใบย่านาง.. พืชพื้นบ้านมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ใบย่านาง เป็นทั้งอาหารและยามาแต่โบราณแล้วนะคะ บางท้องที่ก็เรียกว่า จ้อยนาง จอยนาง ผักจอยนางบ้าง ตามท้องถิ่น ใบย่านางนี้สามารถเก็บยอดอ่อนทานได้ตลอดปี ยิ่งในฤดูฝนแล้วแล้ว จะแตกยอดอ่อนเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว ยอดอ่อนนี้อร่อยมาก สามารถนำมากินแนมกับอาหารเผ็ดได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะนำเอาใบย่านางมาคั้นน้ำปรุงอาหาร ทำให้มีความข้นหนืดขึ้น ยกตัวอย่างอาหารที่ปรุงจากน้ำใบย่านางก็ได้แก่ แกงหน่อไม้ ซุปหน่อไม้ เป็นต้น ที่นำมาปรุงกับหน่อไม้ก็เพราะใบย่านางช่วยลดกรดยูริคในหน่อไม้ได้ จึงลดความขม แต่เพิ่มเบต้าแคโรทีนและคลอโรฟิลล์ให้กับอาหาร นอกจากหน่อไม้แล้วก็ยังนำน้ำใบย่านางไปปรุงกับแกงเห็ด แกงเปอะ แกงขี้เหล็ก แกงขนุน อีกด้วย ฯลฯ ซึ่งสิ่งสำคัญสำหรับน้ำย่านางก็คือต้องทำให้สุกก่อนทาน สาเหตุที่ทำให้น้ำย่านางมีความข้นหนืดก็เป็นเพราะ มีน้ำตาลไซโลสเป็นส่วนประกอบสำคัญของน้ำตาลโพลีแซกคาไรด์จากใบย่านาง เมื่อคั้นน้ำออกมาแล้วนำไปอุ่นให้ร้อนจะได้สารเหนียวคล้ายไซแลนที่ได้จากสาหร่ายทะเล ซึ่งน้ำตาลโพลีแซกคาไรด์นี่แหล่ะคือสารเพิ่มความหนืดเหนียดให้กับอาหารที่ใช้น้ำคั้นใบย่านางไปต้ม ในใบย่านางนั้น มีคุณค่าทางอาหารสูงมาก ที่โดดเด่นมาก ๆ ก็ได้แก่ เส้นใยไฟเบอร์ในอาหาร แคลเซียม เหล็ก เบต้าแคโรทีน และวิตามินเอ รวมไปถึงยังเป็นสมุนไพรที่มีวิตามินซีสูงที่สุดในจำนวนผักพื้นบ้านทั้งหมดของภาคอีสานด้วย นอกจากนี้แล้วยังมีการนำเอาน้ำย่านางคั้นบีบเย็นมาดื่มเพื่อรักษาโรคต่าง ๆ ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น การลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต ลดอาการตกเลือก รักษาโรคเกาต์ได้ ฯลฯ และอีกมากมาย…

  • ภูมิคุ้มกันตกต่ำ เพราะนอนดึกตื่นสาย

    ภูมิคุ้มกันตกต่ำ เพราะนอนดึกตื่นสาย

    ภูมิคุ้มกันตกต่ำ เพราะนอนดึกตื่นสาย จากปกติที่ต้องตื่นเช้าไปทำงานหรือไปเรียนหนังสือกันตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์นั้น เมื่อถึงวันเสาร์อาทิตย์ ก็มักจะพักผ่อน ดูหนังดูทีวีกันจนดึกดื่นแล้วตื่นสาย หรือตื่นเที่ยงไปเลยก็มีในบางคน บางคนก็เก็บวันเสาร์อาทิตย์ไว้สำหรับนอนชดเชย การนอนดึกตื่นสายแม้จะเป็นในวันหยุด ก็สร้างปัญหาให้กับสุขภาพได้เช่นกันนะคะ เพราะเป็นวงจรที่ผิดธรรมชาติ ยิ่งถ้านอนตื่นสายมาก ๆ เช่นหลังเก้าโมงเช้าไปแล้ว อาจทำให้ร่างกายคุณมีปัญหาได้ดังต่อไปนี้ค่ะ 1. ตื่นสายก็ไม่ได้กินมื้อเช้า มื้อนี้เป็นมื้อที่สำคัญที่สุด แม้ว่าคุณจะนอนเลยมื้อเช้าจนไม่รู้สึกหิวเลย แต่ร่างกายคุณก็ยังต้องการมื้อเช้าอยู่ อาหารเช้าเป็นมื้อที่จะได้รับการดูดซึมได้ดีที่สุด เพื่อส่งไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ หากคุณไม่กินมื้อเช้าแต่ข้ามไปกินมื้อดึกแทน ร่างกายจะย่อยและดูดซึมได้ไม่ดี อวัยวะต่าง ๆ แทนที่จะได้พักผ่อนตามเวลา ก็กลับต้องลุกขึ้นทำงาน ก็ทำงานได้ไม่เต็มที่ พลังงานจึงเหลือตกค้างในร่างกายมาก ซึ่งจะสะสมจนกลายเป็นโรคอ้วนได้ในที่สุด 2. ในช่วงเช้าอากาศในห้องนอนจะเป็นพิษมากที่สุด จึงควรลุกขึ้นมาเปิดหน้าต่างระบายอากาศ ปล่อยให้แสงอาทิตย์ส่องเข้าไปทำลายเชื้อโรค และระบายอากาศเสียออกไปจากห้อง หากเอาแต่นอนหมกตัวในห้อง จะทำให้เกิดเป็นโรคภูมิแพ้  ไอ ฯลฯ ยิ่งหากห้องนอนเหม็นอับ สกปรก อากาศถ่ายเทไม่ดี ไม่ได้รับแสงแดดช่วยฆ่าเชื้อบ้าง ก็จะทำให้ไม่สบายบ่อย ๆ ได้ ในส่วนของคนที่ต้องทำงานจนดึก ๆนั้น แนะนำให้นอนก่อนเพื่อเก็บพลังเอาไว้แล้วตื่นเช้าไปทำงาน จะทำได้นานกว่า สมองปลอดโปร่งกว่า การกินกาแฟเพื่อให้ตาสว่างถึงตีสามตีสี่นั้น เป็นการดึงเอาพลังงานที่ไม่ได้ถูกสะสมไว้มาใช้…

  • ปัญหาท้องผูกในคนไทย

    ปัญหาท้องผูกในคนไทย

    ปัญหาท้องผูกในคนไทย ภาวะท้องผูกเป็นภาวะที่พบได้มากถึงราวร้อยละ 15 ของประชากรในประเทศไทยเลยทีเดียว ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ทำให้ปวดแน่นท้อง หงุดหงิดไม่สบายตัว นอนไม่หลับ เสียสมาธิการทำงาน ในผู้ใหญ่ยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตทั้งทางด้านกาย ใจ และสังคมอย่างชัดเจน ทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิด โกรธง่าย ผู้ที่ท้องผูกเรื้อรังนาน ๆ ยังทำให้คุณภาพชีวิตลดลงไปเรื่อย ๆ พอๆ กับโรคร้ายอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น เบาหวาน เข่าเสื่อมเรื้อรัง โรคข้อรูมาตอยด์ ฯลฯ โรคท้องผูกจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรได้รับการแก้ไขทั้งในเด็กและผู้ใหญ่เลยทีเดียว จากการศึกษาพบว่าท้องผูกนั้นมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ โรคอ้วน ร่างกายขาดความกระฉับกระเฉงเพราะไม่ได้ออกกำลังกายอีกด้วย และในตลาดยานั้นพบว่ายาแก้อาการท้องผูกเป็นยาอีกชนิดที่ขายดีติดอันดับ อาการท้องผูกจึงเป็นอาการที่พบได้มากในคนไทยโรคหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ อาการท้องผูกนี้ยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งมีโอกาสท้องผูกมากขึ้น และตามมาด้วยอาการเบาหวาน คอเลสเตอรอลในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน ภาวะซึมเศร้า ฯลฯ แล้วจะทำอย่างไรดีหากมีอาการท้องผูกเรื้อรัง – หากเป็นคนที่ทานอาหารที่มีกากใยน้อย ควรทานผักสดอย่างน้อยประมาณสองฝ่ามือต่อวัน – ทานผลไม้ 15 คำต่อวัน และควรหาธัญพืชชนิดต่าง ๆ มาทานด้วย ไม่ว่าจะเป็น ลูกเดือย ถั่วชนิดต่าง ๆ ข้าวกล้อง…

  • ดื่มกาแฟ ดื่มได้ แต่พอดีไม่มีปัญหา

    ดื่มกาแฟ ดื่มได้ แต่พอดีไม่มีปัญหา

    ดื่มกาแฟ ดื่มได้ แต่พอดีไม่มีปัญหา เดี๋ยวนี้มีคนเสพติดการกินแฟเพิ่มมากขึ้นนะคะ เคยถามตัวเองกันบ้างไหมว่า ทำไมจึงดื่มกาแฟ ติดเพราะรสชาติ? ติดเพราะความหอม? ติดเพราะคาเฟอีน? หรือติดความหวานมันในกาแฟ ? ซึ่งไม่ว่าคุณจะดื่มกาแฟเพราะอะไรก็ตาม แต่ทุกอย่างก็มีสองด้านเสมอ แม้คุณจะได้ความตื่นตัวจากกาแฟก็ตาม แต่คาเฟอีนในกาแฟก็ทำให้ใจสั่น นอนไม่หลับ ได้เหมือนกัน แล้วเราจะดื่มกาแฟอย่างไรให้เกิดผลเสียน้อยที่สุดดี? มาลองดูวิธีเหล่านี้นะคะ 1. ดื่มเท่าที่เหมาะสมเท่านั้น หากพบว่าตนเองดื่มถึงขีดสุดที่จะทำให้เกิดอาการผิดปกติแล้ว ก็อย่าฝืนดื่มต่อ ให้หยุดดื่ม และทุกวันก็ควรดื่มอย่าให้ถึงปริมาณที่อาจเป็นผลร้ายต่อร่างกาย 2. หากหลับยากก็ไม่ควรดื่มกาแฟในช่วงบ่าย หรือช่วงค่ำ 3. ไม่ควรดื่มกาแฟตอนท้องว่าง เพราะเร่งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารได้ 4. ไม่ควรดื่มกาแฟเพื่อให้ร่างกายฝืนทำงานหนัก หรือดื่มเพื่ออดนอน เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพการรับรู้ลดลง ประสิทธิภาพการทำงานก็ไม่ดีเช่นเดิม สมองและร่างกายต้องการพักผ่อน จึงควรนอนหลับพักผ่อนจะดีกว่า 5. หากดื่มกาแฟประจำ ควรทานแคลเซียมเสริมด้วย ทั้ง นม โยเกิร์ต ปลาเล็กปลาน้อย เพื่อทดแทนแคลเซียมที่สูญเสียไปกับปัสสาวะ ลดความเสี่ยงกับการเป็นโรคกระดูกพรุน 6. กินผัก ผลไม้เพื่อกำจัดอนุมูลอิสระที่มีกาแฟให้ออกจากร่างกาย 7. ดื่มน้ำให้มากขึ้นเพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำ จากฤทธิ์ของกาแฟที่ช่วยในการขับปัสสาวะ ผู้ที่มีปัญหาไขมัน หรืออ้วนน้ำหนักเกิน…

  • แนวทางในการมีสุขภาพจิตดีที่

    แนวทางในการมีสุขภาพจิตดีที่

    แนวทางในการมีสุขภาพจิตดีที่ คนที่มีสุขภาพจิตที่ดีนั้น คือคนที่มีความสุขได้ในทุกสถานการณ์ สามารถปรับตัวรับมือกับเหตุการณ์หรือสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ดีหรือร้าย ซึ่งการมีสุขภาพจิตที่ดีได้นั้นก็มีแนวทางดังต่อไปนี้ 1. สร้างครอบครัวให้เป็นปึกแผ่นร่มเย็น การช่วยกันทำครอบครัวให้เป็นสุข มีความรักต่อกันในครอบครัวเป็นเหมือนยาสมานชีวิต ที่ไม่ว่าเราจะมีประสบการณ์ดีร้ายใด ๆ มา เมื่อกลับไปหาครอบครัวก็รู้สึกอบอุ่นเสมอ หากเป็นผู้สูงอายุก็ยิ่งควรทำตัวให้เป็นที่พึ่งทางใจของสมาชิกในครอบคัว ช่วยชี้แนะลูกหลาน เป็นนำกิจกรรมในทางประเพณีวัฒนธรรมของครอบครัวและชุมชน จะช่วยให้ครอบคัวทุกคนมีสุขภาพจิตดที่ดี ผู้สูงอายุเองก็จำเป็นต้องรู้ทันการเปลี่ยนแปลงของโลก เพื่อที่จะสามารถคุยกับผู้อื่นหรือคนในครอบครัวได้ เดี๋ยวนี้การใช้สื่อโซเชียลมีเดีย ก็ทำให้ไม่เหงาได้เช่นกัน อาจมีเพื่อนกลุ่มใหม่ ๆ ขึ้นมาที่มีอายุใกล้เคียงกัน ก็จะช่วยให้มีความสุข สุขภาพจิตดีขึ้น 2. มีเพื่อนไว้ปรึกษาและให้กำลังใจร่วมกัน ทุกคนทุกวัยของชีวิตต่างก็ผ่านการมีเพื่อนในวัยต่าง ๆ มาแล้วทั้งสิ้น การมีเพื่อนก็คือการที่มีคนช่วยแบ่งปันความสุขความทุกข์ระหว่างกัน บางทีเรื่องราวที่เป็นความทุกข์ในจิตเรา เมื่อได้แบ่งปันกับผู้อื่นก็ทุกข์น้อยลง บางครั้งกลับได้แนวคิดใหม่ในการแก้ปัญหาขึ้นมาอีกด้วย นอกจากนี้แล้วเพื่อนยังมีไว้เพื่อเราได้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ฝึกการให้ทานอีกด้วยค่ะ 3. เมื่อมีปัญหาต้องแก้ไขปัญหา อย่าวิ่งหนี เพราะยิ่งวิ่งหนีก็ยิ่งไม่พ้นอยู่ดี แถมยังอาจมีปัญหาสะสมเพิ่มขึ้นไปอีก และควรใช้สติในการแก้ไข หากปัญหาแก้ไขไม่ได้ก็ขอให้ปรับตัวให้อยู่ให้ได้อย่างดีที่สุดก็แล้วกัน 4. รู้จักคำว่าพอ คนที่มีปัญหาสุขภาพจิตส่วนใหญ่เกิดจากความเครียด ความไม่รู้จักพอ เสียสุขภาพจิตรวมไปถึงสุขภาพกายด้วย 5. ทำงานตลอด ไม่ว่าจะเป็นงานที่ทำแล้วมีรายได้หรือไม่มีก็ตาม…

  • รู้จักกับกรดไขมันโอเมก้า 3 และกรดไขมันโอเมก้า 6

    รู้จักกับกรดไขมันโอเมก้า 3 และกรดไขมันโอเมก้า 6

    รู้จักกับกรดไขมันโอเมก้า 3 และกรดไขมันโอเมก้า 6   กรดไขมันโอเมก้า 3 และกรดไขมันโอเมก้า 6 นั้นเป็นชื่อที่คุ้นหูกันมายาวนานแล้ว ซึ่งสำหรับร่างกายเราจะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้เพราะอาจเสียสมดุลในร่างกายได้ ดังนั้นก่อนที่จะซื้อวิตามินเสริมหรือหาอาหารเสริมมาทานกัน เรามาทำความรู้จักกับกรดไขมันทั้งสองชนิดนี้กันก่อนนะคะ ในส่วนของกรดไขมันโอเมก้า 3 นั้น มีอยู่สามชนิดที่สำคัญได้แก่ – กรดไขมันอัลฟาไลโนเลนิก หรือ ALA เป็นกรดไขมันที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น เป็นกรดไขมันต้นตอที่ร่างกายนำไปสร้างเป็นกรดไขมันอีพีเอ และกรดไขมันดีเอเอ พบได้มากใน น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว และน้ำมันอื่น ๆ อีกหลายชนิด รวมไปถึงอาหารที่เป็นถั่วก็มีอยู่เช่นกัน ถั่วเมล็ดแห้งหลายชนิด และน้ำมันพืชอื่น ๆ รวมไปถึงพืชผักนานาชนิดด้วย – กรดไขมันอีพีเอ หรือ EPA – กรดไขมันดีเอชเอ หรือ DHA ซึ่งทั้งกรดไขมันอีพีเอ และกรดไขมันดีเอชเอ นี้สามารถพบได้ในเนื้อปลาทะเล และปลาน้ำจืด ไม่ว่าจะเป็น ปลาสำลี ปลากะพงขาว ปลาอินทรี ปลาทู ปลาดุก ปลาสวาย…

  • ปรับทัศนคติที่มีต่อโรคเรื้อนกันเถอะ!

    ปรับทัศนคติที่มีต่อโรคเรื้อนกันเถอะ!

    ปรับทัศนคติที่มีต่อโรคเรื้อนกันเถอะ! แม้ว่าในประเทศไทยนี้จะเกิดโรคเรื้อนลดลงมาจนไม่เป็นปัญหาระบบสาธารณะสุขอีกต่อไปแล้วก็ตาม แต่ก็ยังพบผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่มากขึ้นทุกปีแ ละกว่าร้อยละ 10 ของผู้ป่วยรายใหม่ยังมีความพิการในระดับสอง คือมีความพิการที่มองเห็นได้ แสดงว่าผู้ป่วยรายนี้ได้รับการรักษาล่าช้าเกินไป ทำให้เกิดผลกระทบต่อผู้ป่วยและครอบครัวทั้งทางเศรษฐกิจและชุมชน การเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อนนั้น ไม่ได้เกิดจากความผิดของผู้ป่วยแต่อย่างใด แต่เกิดจากการติดเชื้อโรคเรื้อนจากคนในชุมชน รวมทั้งผู้ป่วยนั้นไม่มีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรคเรื้อนด้วย ซึ่งกลุ่มนี้จะมีเพียงร้อยละ 3 ของผู้รับเชื้อทั้งหมดเท่านั้น แต่ในสายตาของผู้อื่นในสังคมแล้ว มักมองคนเป็นโรคเรื้อนในแง่ร้าย และมองอย่างรังเกียจเพราะความเชื่อที่ปลูกฝังกันมาแบบผิด ๆ ทำให้ผู้ป่วยได้รับความทุกข์ทรมานทั้งทางกายและทางใจ ถูกมองอย่างดูถูก ไม่ให้รับการเข้าสังคม โดยรังเกียจเดียจฉันท์ จนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ แม้บางทีผู้ป่วยจะได้รับการรักษาจนหายแล้ว แต่ผู้ที่รู้ว่าเคยเป็นก็ยังแสดงความรังเกียจอยู่ดี ความจริงแล้วการรักษาโรคเรื้อนนั้น สามารถรักษาให้หายสนิทได้ และใช้เวลาในการรักษาเพียง 6 เดือนถึง 2 ปี และแม้จะเข้าขั้นพิการแล้วก็ยังรักษาให้หายได้ด้วย เมื่อได้รับการรักษาแล้วก็ยังไม่แพร่เชื้อโรคไปให้ผ็อื่น จึงไม่จำเป็นต้องกังวลหรือกลัวต่อร่างกายที่พิการของผู้ป่วยโรคเรื้อนแต่อย่างใด สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ที่เริ่มต้นมีอาการ ได้แก่ มีผิวหนังเป็นวงด่างสีขาวหรือแดง มีอาการชา และเป็นผื่นวงแดง เป็นตุ่มไม่คัน ให้รีบไปรับการตรวจรักษาที่สถานพยาบาลโดยด่วน ผู้ป่วยก็ไม่มีความพิการ หรือแม้จะพิการไปแล้วก็รักษาอาการไม่ให้พิการมากขึ้นไปได้ ซึ่งในระหว่างการรักษาผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตในครอบครัวหรือชุมชนได้ตามปกติ สำหรับโรคนี้สังคมควรมีความเข้าใจ และไม่แสดงความรังเกียจทั้งผู้ป่วยและครอบครัว ก็จะช่วยลดความทุกข์ทรมานใจจากโรคลงได้มากและยังมีกำลังใจในการรักษาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการดูแลตนเองตามคำแนะนำของแพทย์จนหายสนิท ไม่ทำให้ครอบครัวและสังคมได้รับผลกระทบอีกต่อไป

  • รู้จักกับโรคหิดและการดูแลรักษา

    รู้จักกับโรคหิดและการดูแลรักษา

    รู้จักกับโรคหิดและการดูแลรักษา โรคหิดเป็นโรคระบาดทางผิวหนังชนิดหนึ่งเกิดจากการติดเชื้อพยาธิ มักพบได้ตามผู้ที่อยู่กันอย่างแออัด เช่น ตามวัด โรงเรียน โรงงาน ค่ายทหาร เป็นโรคที่สามารถรักษาและป้องกันได้เช่นเดียวกับโรคผิวหนังอื่น ๆ แต่หากปล่อยไว้อาจกลายเป็นแผลพุพองและกลายเป็นโรคหน่วยไตอักเสบเฉียบพลันแทรกซ้อนได้เหมือนกัน สาเหตุของโรคนี้ เกิดจากเชื้อหิดซึ่งมีลักษณะเป็นตัวไรเล็ก ๆ มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เป็นตัวเมียที่เมื่อผสมพันธุ์แล้วจะขุดรูอยู่บนผิวหนัง ทำให้มีตุ่มนูนแดงตรงรูขุนขนและมีอาการคัน สามารถติดต่อร่วมกันได้ด้วยการสัมผัสหรือใช้ของร่วมกัน บางรายอาจติดต่อทางการมีเพศสัมพันธ์ ทำให้เกิดเป็นตุ่มคันบริเวณอวัยวะเพศได้ ถือเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกชนิดหนึ่งนั่นเอง โดยอาการของโรคหิดนั้น จะมีตุ่มน้ำใส่และเป็นตุ่มหนอง คันขึ้นกระจายเหมือนกันทั้งสองด้านของร่างกาย พบมากตามง่ามนิ้วมือ นิ้วเท้า ข้อมือ ข้อศอก รักแร้ รอบหัวนม รอบสะดือ ก้น ข้อเท้า อวัยวะเพศ หากเป็นเด็กเล็กอาจขึ้นที่หน้าและหัวได้ด้วย บางรายอาจเป็นผื่นนูนแดงเป็นเส้นคดเคี้ยวขนาดเท่าเส้นด้าย ขนาดประมาณ 2-3 มม. มีอาการคันมากตอนกลางคืน และผู้ป่วยบางคนอาจเกาจนผิวหนังติดเชื้อซ้ำซ้อนได้อีก การดูแลตนเองเมื่อพบกับตุ่มคันตามร่างกายนั้นก็ให้รักษาตามอาการเบื้องต้นก่อน เช่น หากแพ้ยุงหรือแมลงกัดรวมทั้งผื่นสัมผัส ให้ใช้ครีมสเตียรอยด์ทา และหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ หากเป็นแผลพุพองให้ปรึกษาแพทย์ ซึ่งอาจจ่ายยาปฏิชีวนะให้คุณทาน นอกจากการใช้ยารักษาโรคหิดตามแพทย์สั่งแล้ว ก็ควรปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการติดเชื้อด้วย ได้แก่ ควรรักษาทุกคนในบ้านไปพร้อม ๆ กัน ในส่วนของเสื้อผ้า…

  • โรคสะเก็ดเงิน สาเหตุและการรักษา

    โรคสะเก็ดเงิน สาเหตุและการรักษา

    โรคสะเก็ดเงิน สาเหตุและการรักษา หากคำนวณตามจำนวนประชากรโลกใบนี้แล้ว โรคสะเก็ดเงินสามารถพบได้ประมาณร้อยละ 2 เท่านั้น พบได้ทั้งเพศชายและเพศหญิงพอ ๆ กัน ซึ่งพบได้หลายรูปแบบดังนี้ – ผิวหนังเป็นปื้นนูนหนาขนาดใหญ่ และเป็นเรื้อรัง ปื้นมีขอบเขตชัดเจน สีชมพูถึงแดง มีสะเก็ดสีเงินปกคลุม พบได้มากบริเวณ ข้อต่อ ข้อศอก ข้อเข่า แขนขา และหลังส่วนล่าง – ปื้นรูปหยดน้ำ พบได้มากในเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ตอนต้น เป็นปื้นนูนขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร ขึ้นเป็นจำนวนมาก บริเวณลำตัว แขนขา และมีอาการหลังจากการเจ็บคอ – เป็นผื่นบริเวณข้อพับ ขาหนีบ รักแร้ ราวนม – ผื่นที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า เป็นผื่นหนา ๆ ที่ทำให้ฝ่ามือ ฝ่าเท้าแตกและเจ็บ – เป็นตุ่มหนองทั่วร่างกาย มีไข้ ไม่สบายเจ็บผิวหนัง – เป็นผื่นแดงทั่วตัว มีผิวหนังอักเสบทั่วร่างกายกว่าร้อยละ 90 ขึ้นไป…