Author: pure

  • ผู้สูงอายุควรดูแลตนเองให้มากขึ้น

    ผู้สูงอายุควรดูแลตนเองให้มากขึ้น

    ผู้สูงอายุควรดูแลตนเองให้มากขึ้น ด้วยความก้าวหน้าทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข ทำให้อัตราการเกิดใหม่ของเด็กไทยน้อยลงและผู้สูงอายุมีอายุยืนยาวขึ้น คาดว่าในอีกประมาณ20 ปีข้างหน้า ประเทศไทยน่าจะเป็นสังคมสูงวัยเป็นอันดับหนึ่งของอาเซียน ดังนั้นท่านใดที่จะก้าวเข้าสู่วัยสูงอายุควรเตรียมพร้อมที่จะพึ่งพาตนเองให้มากกว่าเดิม เพราะลูกหลานมักจะไปทำงานต่างถิ่น ผู้สูงอายุจึงต้องอยู่บ้านโดยลำพัง ควรปรับตัวปรับใจให้เข้าใจการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ให้มากขึ้นก็จะสามารถดำเนินชีวิตในบั้นปลายได้อย่างมีความสุข ซึ่งการดูแลตนเองนั้นควรยึดหลักสามข้อดังต่อไปนี้ 1. ดูและอารมณ์และสุขภาพจิตให้ดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอด้วยเพื่อให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น และเครียดน้อยลง สุขภาพจิตก็จะดี กล้ามเนื้อแข็งแรง ทำให้ไม่อ้วน การเล่นกีฬาสามารถเลือกที่ตนเองชอบได้ แต่ต้องไม่หักโหมจนเกิดอุบัติเหตุ ควรให้เวลาสำหรับการเล่นกีฬาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง วันละ 30 นาทีขึ้นไปค่ะ 2. อยู่ในที่ที่มีสิ่งแวดล้อมและอากาศที่ดี สะอาด อากาศถ่ายเทสะดวก มีลมพัดตามธรรมชาติจะช่วยให้ระบบหายใจปลอดโปร่งขึ้น ร่างกายได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่ ผู้สูงอายุหากได้ไปหาโอกาสพักผ่อนหรืออยู่ตามชนบท ภูเขา ชายทะเลบ่อย ๆ จะดีไม่น้อย 3. หางานอดิเรกทำ อย่าปล่อยให้ตัวเองว่าย ควรมีกิจกรรมที่ชอบมาทำบ้าง ไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง อาจเป็นงานที่มีรายได้หรือไม่ก็ได้ทั้งสิ้น แต่ควรสร้างความเพลิดเพลินสุขใจ หรืออาจจะเลือกเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสังคมก็ได้ จะทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าต่อผู้อื่น บรรดาลูกหลานทั้งหลายก็เช่นกัน ควรดูแลคนเฒ่าคนแก่ที่บ้านด้วย เพราะหากยิ่งมีสุขภาพที่ไม่แข็งแรงด้วยแล้วย ความห่างเหินกันก็จะยิ่งทำให้สุขภาพจิตใจย่ำแย่ลง โรคภัยต่าง ๆ ที่รุมเร้าอยู่แล้วก็ยิ่งกำเริบมากขึ้น…

  • รักษาจิตใจไว้ในแดนบวก ช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้

    รักษาจิตใจไว้ในแดนบวก ช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้

    รักษาจิตใจไว้ในแดนบวก ช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้ โรคมะเร็ง เป็นโรคที่ทำให้เรานึกถึงความตายและความทุกข์ทรมาน เป็นส่วนใหญ่นะคะ ในปัจจุบันนี้คนเป็นมะเร็งก็เพิ่มขึ้น ๆ ทุกวันด้วย ปัจจัยในการเป็นมะเร็งเกิดขึ้นได้หลากหลายค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร อากาศ มลพิษต่าง ๆ กรรมพันธุ์ รวมไปถึง ความเครียดด้วย และความเครียดนี่ล่ะค่ะที่เป็นอีกตัวการสำคัญที่ทำให้ร่างกายเราเจ็บป่วย และเป็นมะเร็ง ความเครียดเกิดจากจากอารมณ์ด้านลบหลายตัว ไม่ว่าจะเป็น ความโกรธ ความเกลียด ความชิงชัง ความริษยา ความหงุดหงิด ความอยาได้อยากมี ฯลฯ เหล่านี้มีผลต่อสุขภาพร่างกายของเราทั้งสิ้น การที่อารมณ์มีผลต่อสุขภาพของเรา เพราะทุกระบบของร่างกายมนุษย์นั้นเชื่อมโยงถึงกัน จิตใจดีจะทำให้ระบบภูมิต้านทานดีขึ้น ผู้ที่มีภูมิต้านทานดีก็จะทำให้ร่างกายแข็งแรง เมื่อเจ็บป่วยก็จะหายเร็วกว่าคนที่มีแต่ความเคร่งเครียด ท้อแท้ สิ้นหวัง เวลาร่างกายมีความเครียดนั้นเส้นเลือดฝอยจะหดตัวลง เนื่องจากระบบประสาทซิมพาเทติกถูกกระตุ้น อวัยวะที่เกี่ยวเนื่องกับภูมิคุ้มกันจะลดความไวลง ผู้ที่มีความเครียดนาน ๆ จะทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงกว่าปกติ จึงเป็นสาเหตุให้เสี่ยงต่อการก่อตัวของมะเร็งร้ายได้ง่ายขึ้น ยิ่งผู้ป่วยมีจิตใจที่ห่อเหี่ยว สิ้นหวัง ก็ทำให้ร่างกายอ่อนแอมากยิ่งขึ้น โรคจึงลุกลามได้ไปง่ายยิ่งขึ้นด้วย ในด้านของฝึกฝนจิตใจเพื่อลดความเจ็บปวดจากมะเร็งนั้น ทางตะวันตกจะเน้นให้ผู้ป่วยใช้เทคนิคการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ จะได้ลดความเจ็บปวดลง ใช้เทคนิคการสร้างจินตภาพเพื่อเพิ่มการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว และช่วยขจัดเซลล์มะเร็ง ฝึกลดความโกรธ ลดอารมณ์ที่ขุ่นมัวลงไป มองโลกในแง่ดีมากขึ้น ให้อภัยและปล่อยวาง…

  • 10 สาเหตุใหญ่ ๆ ของโรคพาร์กินสันในผู้สูงอายุ

    10 สาเหตุใหญ่ ๆ ของโรคพาร์กินสันในผู้สูงอายุ

    10 สาเหตุใหญ่ ๆ ของโรคพาร์กินสันในผู้สูงอายุ เมื่อคนเราก้าวเข้าสู่วัยชรานั้น ความเสื่อมโทรมก็มาเยือนเป็นเรื่องธรรมดา แม้แต่ระบบประสาทก็เป็นจุดที่สามารถเสื่อมได้ไม่แตกต่างจากอวัยวะอื่น ๆ ทำให้เกิดโรคพาร์กินสันขึ้นได้ ส่งผลให้เกิดอาการสั่นเกร็ง และเคลื่อนไหวได้ช้า มักมีสาเหตุดังต่อไปนี้ 1. ความเสื่อมชราของสมอง เซลล์สมองที่สร้างสารโดพามีนลดจำนวนลง พบมากในผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปทั้งสองเพศ เป็นกลุ่มที่ไม่มีสาเหตุจำเพาะแน่นอนและเป็นกลุ่มที่พบได้บ่อยที่สุดด้วย 2. ยากล่อมประสาท หรือยานอนหลับที่ออกฤทธิ์กดการสร้างสารโดพามีน พบได้ในผู้ป่วยจิตเวชที่ต้องรับยาชนิดนี้เพื่อป้องกันการคลุ้มคลั่งและอาการอื่น ๆ ทางประสาท 3. ยาลดความดันโลหิตสูง ในอดีตมียาลดความดันโลหิตที่ออกฤทธิ์ที่ระบบประสาทส่วนกลางทำให้สมองลดการสร้างโดพามีน แต่ยาลดความดันโลหิตในระยะหลัง ๆ จะมีฤทธิ์นอกระบบประสาทส่วนกลาง จึงไม่มีผลต่อสมองที่ทำให้เกิดโรคพาร์กินสันอีกต่อไป 4. หลอดเลือดสมองอุดตัน ทำให้เซลล์สมองที่สร้างโดปามีนน้อยลงหรือหมดไป 5. ประสบกับสารพิษทำลายสมอง เช่น พิษจากคอร์บอนมอนอกไซด์ หรือสารแมงกานีนในโรงงานผลิตถ่ายไฟฉาย 6. สมองขาดออกซิเจน ไม่ว่าจะเป็นการถูกบีบคอ จมน้ำ หรือการอุดตันทางเดินหายจากเสมหะหรืออาหาร 7. ศีรษะถูกกระทบกระเทือน ไม่ว่าจะเป็นจากอุบัติเหตุ หรือการเล่นกีฬา 8. สมองอักเสบ 9. โรคทางพันธุกรรมบางชนิด 10. ยาต้านกลุ่มแคลเซียมที่ใช้กับโรคหัวใจ…

  • ภาวะออทิสซึมในเด็ก

    ภาวะออทิสซึมในเด็ก

    ภาวะออทิสซึมในเด็ก ภาวะออทิสซึม หรือ Autism นั้น เป็นโรคหรือกลุ่มอาการที่เกิดขึ้นเนื่องจากสมองผิดปกติในเด็ก เด็กเหล่านี้มักจะอยู่แต่ในโลกของตนเอง ไม่สนใจสังคมรอบข้าง เรามักเรียกเด็กที่เป็นโรคออทิสซึมว่า เด็กออทิสติก ซึ่งจะมีความผิดปกติที่แสดงออกมาสามด้านได้แก่ – บกพร่องในการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการไม่แสดงสีหน้าท่าทางในการสื่อสารหรือตอบรับผู้อื่น ไม่สบตา เรียกไม่หัน – บกพร่องในทางการสื่อสาร เช่น ไม่พูด พูดช้า หรือไม่พยายามสื่อสาร พูดตาม หรือพูดสลับคำ – พฤติกรรมที่ผิดปกติ เช่น การหมกมุ่นกับอะไร ๆ นาน ๆ หรือทำแต่เรื่องซ้ำ ๆ ยึดติดกับขั้นตอนในการทำกิจวัตรประจำวัน เป็นต้น สาเหตุของโรคออทิสซึ่มนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากหลายปัจจัยรวมกันทั้งเรื่องของพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม ทำให้สมองผิดปกติทั้งโครงสร้างการทำงาน มักเกิดขึ้นตั้งแต่เป็นตัวอ่อนในครรภ์ของแม่ เด็กบางคนอาจแสดงอาการให้เห็นตั้งแต่แรกเกิด แต่บางคนก็จะมีพัฒนาการในระยะแรกเหมือนเด็กทั่วไป การดูแลเด็กออทิสติกในประเทศไทยนั้น จะเน้นฝึกความสามารถของเด็กเป็นส่วน ๆ ไป โดยให้เด็กทำในสิ่งที่คิดว่าควรทำได้ตามวัย เช่น เรียนรู้เรื่องสีสัน เรื่องรูปทรง การใช้คำพูด การให้เด็กทำซ้ำ ๆ บ่อย ๆ จนเด็กท่องจำได้…

  • ลองฝึกชี่กงเพื่อฟื้นฟูและรักษาสุขภาพกันดูสิคะ

    ลองฝึกชี่กงเพื่อฟื้นฟูและรักษาสุขภาพกันดูสิคะ

    ลองฝึกชี่กงเพื่อฟื้นฟูและรักษาสุขภาพกันดูสิคะ ชี่กงเป็นคำภาษาจีนค่ะ คำว่าชี่ หมายถึง พลังลมปราณ ส่วนคำว่า กง หมายถึง การฝึกฝนปฏิบัติ เมื่อนำมารวมกันแล้วจึงหมายถึงการฝึกฝนปฏิบัติเพื่อให้เกิดความสมดุลของพลังลมปราณ มีมากว่าห้าพันปีแล้ว มีต้นกำเนิดในประเทศจีนนั่นเองค่ะ โดยมีหลักการก็คือ พลังงานเกี่ยวกับกฎของธรรมชาตินั้น จะมีความเกี่ยวข้องกับพลังงานทั้งสาม ได้แก่ สวรรค์ พื้นโลก และมนุษย์ หากพลังงานทั้งสามถ่ายเทซึ่งกันและกันได้ดี ก็จะมีความสมดุล ไม่ป่วยไข้ โลกก็จะสันติสุข ไม่เกิดภัยพิบัติ ฝนตกตามฤดูกาล พืชพันธ์ออกดอกออกผลตามเวลา แต่ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็นโลกหรือมนุษย์ต่างก็ตกอยู่ในภาวะไม่สมดุล จึงเกิดความวิปริตและโรคภัยนานาชนิดขึ้น การฝึกชี่กงเพื่อรักษาสุขภาพนั้น จะเน้นการปรับสมดุลของพลังลมปราณ เช่น หากหยินหรือหยางพร่องก็จะมีการฝึกท่าทางต่าง ๆ เพื่อเพิ่มหยินหรือหยางที่ขาดไป โดยมีองค์ประกอบสามอย่างได้แก่ การหายใจที่ถูกวิธี การมีสมาธิในขณะที่ฝึก และการใช้ท่วงท่าต่าง ๆ ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญรองลงมาจากการหายใจและการใช้สมาธิ เมื่อฝึกชี่กงแล้วนั้นจะมีประโยชน์ก็คือ ทำให้ร่างกายมีความยืดหยุ่นทนทานมากขึ้น ในขณะที่ก็ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้ การหายใจดีขึ้น ป้องกันโรคกระดูกพรุน ลดอาการปวดจากความตึงของกล้ามเนื้อ ลดความดันโลหิตสูง เพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย ลดอาการภูมิแพ้ คลายเครียดได้ด้วย ผลข้างเคียงจากการฝึกชี่กง ซึ่งอาจเกิดจากการฝึกที่ไม่ถูกต้องได้ เช่น อาจมีความร้อนสะสมในร่างกาย อาจร้อนวูบวาบเฉพาะที่…

  • วิธีล้างหน้าสำหรับสาว ๆ ที่มีผิวพรรณทุกประเภท

    วิธีล้างหน้าสำหรับสาว ๆ ที่มีผิวพรรณทุกประเภท

    วิธีล้างหน้าสำหรับสาว ๆ ที่มีผิวพรรณทุกประเภท ผิวหน้าที่สวยใส ชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง อิ่มน้ำนั้น เป็นผิวที่เกิดจากการดูแลอย่างเหมาะสมและสม่ำเสมอ ยิ่งโดยเฉพาะการทำความสะอาดผิวหน้าด้วยแล้ว ยิ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากขึ้นตอนหนึ่ง เพราะในแต่ละวันที่เราใช้ชีวิตนั้น จะมีสิ่งสกปรกมาตกค้างอยู่บนผิวหน้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นจากเหงื่อไคล จากไขมันที่ต่อมผิวหนังสร้างออกมา จากขี้ไคลหรือเซลล์ผิวหนังชั้นนอกที่หลุดลอกตัวออก รวมไปถึงมลพิษสิ่งสกปรกภายนอกและเครื่องสำอางด้วย การทำความสะอาดผิวหน้าจึงเป็นขั้นตอนแรกของการดูแลผิวพรรณให้สวยใส เปล่งปลั่งได้ การล้างหน้าจึงจำเป็นต้องล้างด้วยผลิตภัณฑ์ที่สามารถชำระล้างสิ่งสกปรกออกหมดได้ การล้างแต่น้ำเปล่าเพียงอย่างเดียวอาจชำระล้างได้แช่เหงื่อและฝุ่นละอองเท่านั้น แต่ไม่สามารถล้างคราบเครื่องสำอางค์ และไขมันบนผิวหน้าเราออกไปได้เลย ทำให้เกิดสิวอุดตันขึ้นได้ง่ายมาก สบู่ก้อนที่หลายคนชอบนำมาล้างหน้านั้น ความจริงแล้วอาจไม่ค่อยเหมาะเท่าไร เพราะสบู่ก้อนมีความเป็นด่างสูงมาก อาจทำให้ผิวหน้าเสียความชุ่มชื้น ผิวจึงแห้งเป็นขุยได้ ควรเลือกใช้โฟมหรือเจลล้างหน้า ที่ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับทำความสะอาดผิวหน้าแต่ละชนิดดีกว่า ประกอบกับเคล็ดลับการล้างหน้าดังต่อนี้ด้วยนะคะ คนที่มีผิวแห้ง ตอนเช้าอาจล้างน้ำเปล่าธรรมดาได้ แต่ไม่ควรใช้น้ำร้อนหรืออุ่นมาก ๆ ล้างเพราะจะทำให้ผิวยิ่งแห้งมากขึ้น ควรเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสำหรับผิวแห้งเท่านั้น เพื่อคงความชุ่มชื้นของผิวพรรณไว้ ไม่ควรล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับคนผิวมันหรือผิวผสมเพราะอาจทำให้ผิวแห้งมากเกินไปได้ คนที่มีผิวมันหรือผิวเป็นสิว ควรล้างหน้าด้วยโฟมหรือเจลล้างหน้าที่อ่อนโยนสำหรับรักษาสิว วันละสองครั้ง ไม่ควรล้างบ่อยเกินไปเพราะจะทำให้ผิวหน้าระคายเคืองมากยิ่งขึ้น ในระหว่างวันหากหน้ามันให้ล้างด้วยน้ำเปล่า และก่อนนอนหลังจากล้างหน้าแล้วควรเช็ดด้วยโทนเนอร์เพื่อปรับสภาพผิวให้น้ำมันน้อยลง คนที่มีผิวผสม คือแห้งข้างแก้ม และมันบริเวณทีโซน หน้าผาก จมูกและคาง ควรแยกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวหนังแต่ละชนิด สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องแต่งหน้าด้วยครีมรองพื้นที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ควรใช้โลชั่นหรือออยล์เช็ดเครื่องสำอางค์ให้หมดก่อน จากนั้นค่อยล้างด้วยโฟมล้างหรือเจลล้างหน้าตามปกติ การดูแลผิวหน้านั้นควรเริ่มต้นดูแลตั้งแต่วัยสาว…

  • ลดเค็มลงครึ่งหนึ่งจะได้ไหม?

    ลดเค็มลงครึ่งหนึ่งจะได้ไหม?

    ลดเค็มลงครึ่งหนึ่งจะได้ไหม? ในปัจจุบันนี้คนไทยเรามีสติถิการเป็นโรคความดันโลหิตสูงถึงกว่า 12 ล้านคน เป็นโรคไต 8 ล้านคน โรคหัวใจขาดเลือด 7.5 แสนคน รวมถึงโรคหัวใจขาดเลือดหรืออัมพฤกษ์ อัมพาตที่มีสาเหตุมาจากการกินอาหารที่มีรสเค็มหรือมีโซเดียมสูงมาก ทำร้ายร่างกายได้ในระยะยาว ซึ่งจากการสำรวจพบว่าคนไทยบริโภคเกลือหรือโซเดียมสูงเกินกว่าที่แนะนำต่อวันถึงสองเท่าตัว หรือประมาณ 5,000 มิลลิกรัมต่อวันเลยทีเดียว ซึ่งมักอยู่ในรูปของเครื่องปรุงรสต่ง ๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำปลา ซีอีว ผงชูรส เกลือ กะปิ เครื่องแกง น้ำปลาร้า ผงฟู ฯลฯ อาหารที่เป็นนิยมและมีโซเดียมอยู่มากมักไม่ใช่อาหารสดแต่จะเป็นอาหารปรุงสำเร็จ หรืออาหารแปรรูป ไมว่าจะเป็น อาหารกระป๋อง อาหารดองเค็ม ตากแห้ง แช่อิ่ม บะหมี่วอง กุนเชียง ลูกชิ้น ไข่เค็ม ขนมถุง ขนมปัง ฯลฯ แม้แต่กับข้าวสำเร็จที่ขายก็ยังมีโซเดียมสูงมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นแกงไตปลา ไข่พะโล้ คั่วกลิ้ง แม้แต่ในอาหารจานเดียวอย่าง ข้าวหน้าเป็ด ข้าวขาหมู ข้าวคลุกกะปิ ข้าวมันไก่ ก็มีโซเดียมต่อจานตั้งแต่ 1,000-2,000 มิลลิกรัมเลยนะคะ…

  • ฝึกหัดนิสัยให้เลิกเหล้าได้สำเร็จ

    ฝึกหัดนิสัยให้เลิกเหล้าได้สำเร็จ

    ฝึกหัดนิสัยให้เลิกเหล้าได้สำเร็จ การเปลี่ยนนิสัยบางอย่างนั้น แม้เราจะรู้กันดีกว่าเป็นเรื่องที่ยาก แต่หากทำได้จริง ผลที่ตามมาอาจดีจนคาดไม่ถึงก็ได้ อย่างนิสัย การดื่มเหล้า นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่หากเราตั้งใจปรับปรุงเพื่อลดละเลิกแล้ว ดีขึ้นทั้งสุขภาพกาย ใจ ของตัวเราและคนใกล้ชิดแน่นอนค่ะ วันนี้จะขอนำเอาไกด์ไลน์การปรับปรุงนิสัยเพื่อให้เลิกเหล้าได้สำเร็จมาฝากกันนะคะ 1. ยอมรับความจริงว่าเรามีปัญหา การเปิดใจยอมรับก็คือการยอมหันมาพิจารณาปัญหาอย่างที่มันเป็นอยู่จริง ๆ จะทำให้เรามองเห็นทางแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้นได้ 2. หันกลับมามีสติทุกการกระทำ ก่อนหน้านี้เวลาทำอะไรก็มักให้อารมณ์และกิเลสนำหน้า ทำทุกอย่างที่ต้องการโดยไม่ยับยั้งชั่งใจเลย แต่หากมีสติให้มากขึ้นแล้วจะรู้เท่ากันความอยากและเท่ากันกิเลส เท่านี้จิตใจก็จะเป็นอิสระมากขึ้นจากความครอบงำ ทุกการกระทำก็จะมีเหตุมีผลและเลือกทำแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตได้นั่นเอง 3. มีความซื่อสัตย์ กล้าเปิดเผยความจริง และกล้ายอมรับความผิด โดยเฉพาะกับคนใกล้ชิดที่จริงใจและพร้อมที่จะช่วยเหลือเรา ก็จะเอื้อต่อการแก้ปัญหาต่อไป 4. มีความกล้าคิดกล้าทำ กล้ารับผิดชอบในการกระทำ จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้ โดยก่อนที่จะลงมือนั้นเราต้องวางเป้าหมาย แล้วค้นหาหนทางปฏิบัติ ลงมือกระทำ เรียนรู้ข้อผิดพลาด ให้กำลังใจแก่ตนเอง แล้วจึงจะถึงเป้าหมายที่หวังไว้ได้ 5. มีอารมณ์ขันเสมอ ยอมรับว่าเราไม่ได้รู้ทุกเรื่อง ไม่ได้เก่งทุกอย่าง จะช่วยผ่อนคลายสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้ ทำให้เรามีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นดีขึ้นด้วย 6. ให้อภัย ไม่ถือโกรธง่าย ๆ รวมไปถึงให้อภัยตนเองด้วย ยอมรับว่าเราไม่ได้สมบูรณ์ไปทุกอย่าง สามารถทำผิดได้เช่นเดียวกับคนอื่น หมั่นแผ่เมตตาให้ตนเองและผู้อื่นไปด้วย…

  • ผักปลัง ผักพื้นบ้านมากประโยชน์

    ผักปลัง ผักพื้นบ้านมากประโยชน์

    ผักปลัง ผักพื้นบ้านมากประโยชน์ ผักปลัง หรือ ผักปั๋งในภาษาท้องถิ่นนั้น เป็นผักพื้นบ้านของไทยขึ้นอยู่ตามที่ชื้นทั่วไป มีอยู่สองชนิดก็คือ ผักปลังขาว และผักปลังแดง มีถิ่นกำเนิดทั้งในเอเชียและแอฟริกา ขึ้นได้ง่ายในที่ชุ่มชื้นกับดินทุกประเภท มีลักษณะเป็นไม้เลื้อย ลำต้นกลมเป็นสีเขียวหรือสีม่วงแดง อวบน้ำ แตกกิ่งก้านสาขาได้มาก ใบมีลักษณะมัน รูปร่างกลมหรือรูปไข่เรียงสลับกัน แผ่นใบอวบน้ำ กว้างประมาณ 2-6 เซนติเมตรและยาว 2.5-7.5 เซนติเมตร ส่วนดอกนั้นจะมีสีขาวหรือชมพูม่วง ไม่มีก้านดอก ออกดอกเป็นช่อ ตรงปลายแยกเป็นแฉก ๆ คุณค่าทางอาหารของผักปลัง ผักปลังให้แร่ธาตุและวิตามินมากมายโดยเฉพาะเบต้าแคโรทีน ช่วยบำรุงสายตาและช่วยป้องกันมะเร็งได้ การทานก็จะนำเอายอดอ่อน ใบอ่อน และดอกอ่อน ซึ่งมีรสจืดเย็นมากินเป็นผักจิ้มน้ำพริก หรือนำมาแกงแบบต่าง ๆ ทั้งแกงส้ม แกงแค แกงปลา นำมาผัดกับแหนมหรือใส่แกงอ่อมหอย ก็ได้ ฯลฯ ส่วนประโยชน์ทางยาของผักปลังนั้น สามารถนำเอาก้านมาแก้พิษฝี ท้องผูก ลดไข้ได้ ใบนำมาขับปัสสาวะ แก้อาการอักเสบ กลาก น้ำคั้นจากใบใช้บรรเทาอาการผื่นคัน นำดอกมาแก้เกลื้อนได้ ส่วนราก นำมารักษาอาการเท้าด่าง รังแค…

  • ใช้หลัก 5ย. ป้องกันเด็กถูกสุนัขบ้ากัดตาย

    ใช้หลัก 5ย. ป้องกันเด็กถูกสุนัขบ้ากัดตาย

    ใช้หลัก 5ย. ป้องกันเด็กถูกสุนัขบ้ากัดตาย โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนที่มีอันตรายมาก ผู้ที่ติดเชื้อมีอาการแล้วต้องเสียชีวิตทุกรายได้ แต่ลีปนั้นมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อโรคนี้ไม่ต่ำกว่าห้าหมื่นกว่ารายทุกปี สำหรับในประเทศได้เองมีผู้ที่สัมผัสโรคต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าไม่ต่ำกว่าปีละห้าแสนราย และยังมีผู้เสียชีวิตอยู่ทุกปีด้วย และส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ขวบ (กว่าหนึ่งในสามของผู้ที่มาขอฉีดวัคซีน) มักจะโดยลูกสุนัขกัด และเกิดขึ้นในช่วงเวลาปิดเทอมภาคฤดูร้อน ดังนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลายอย่าให้เด็กเข้าไปใกล้สุนัขที่ตนเองไม่ได้เลี้ยงไว้ แม้จะเป็นลูกสุนัขที่น่ารักก็ตาม เพราะแม้การถูกกัด ข่วน ขบเพียงเล็กน้อย แต่เชื้อก็สามารถเข้าสู่รอยแผลเล็ก ๆ ได้ โรคนี้เป็นแล้วตาย ไม่มียารักษา ซึ่งหากถูกสุนัข กัด ข่วน ขบ ก็ควรรีบล้างแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง เช็ดให้แห้งแล้วใส่ยาฆ่าเชื้อโรค เช่น ทิงเจอร์ หรือ เบตาดีน แล้วรีบนำเด็กมาพบแพทย์ เพื่อรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และทำตามแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด อีกท้งควรกักขังสุนัขหรือติดตามดูอาการสุนัขอีก 10 วันด้วย โดยทั่วไปสุนัขที่มีเชื้อบ้าจะตายภายใน 10 วันหลังจากแสดงอาการ และเพื่อป้องกันสุนัขบ้ากัด เราจึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำ 5ย ดังต่อไปนี้ 1. อย่าแหย่สุนัขที่กำลังโมโห 2. อย่างเหยียบหัว ตัว หาง…